ปวดแสบปวดร้อนตามขา และข้อขา

สวัสดีค่ะ คุณ  Jakkaphan Saewong,

                      อาการปวดแสบ ปวดร้อนตามขาและข้อขา โดยที่บริเวณผิวหนังขาและข้อนั้นไม่ได้มีความผิดปกติอะไร หรือไม่ได้มีอะไรมาสัมผัส เรียกว่ามีความรู้สึกสัมผัสผิดปกติหรือความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน (paresthesia) อาจพบอาการนี้ได้เป็นปกติ หากเป็นอยู่เพียงชั่วคราว แล้วกลับมาเป็นปกติ ซึ่งอาจเกิดจากเส้นประสาทส่วนนั้นถูกกดทับชั่วคราว เช่น จากการนั่งทับ ไม่ใช่จากโรค แต่ถ้าเกิดขึ้นเรื่อยๆ หรือ เป็นตลอดเวลา แสดงว่ามีโรคบางอย่าง เช่น

                 1. โรคปลายประสาทอักเสบที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น ได้รับอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทนั้นๆ เป็นโรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคพุ่มพวง เป็นต้น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ติดสุราเรื้อรัง ขาดวิตามินบี 1 บี 6 บี 12 หรือไนอะซิน ได้รับวิตามินดีมากไป เคยเป็นงูสวัดบริเวณนั้น ติดเชื้อ HIV มีเนื้องอกที่เส้นประสาทบริเวณนั้น เป็นผลจากการได้รับยาเคมีบำบัด ได้รับสารพิษหรือโลหะหนัก เป็นต้น

                2. โรคที่ไขสันหลัง เช่น เนื้องอกที่ไขสันหลัง หรือเคยได้รับอุบัติเหตุที่ไขสันหลัง

                3. โรคในสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง สมองอักเสบ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เป็นต้น

                 สำหรับการรักษาอาการความรู้สึกสัมผ้สผิดปกตินี้  คือต้องรักษาที่ต้นเหตุ ดังนั้นหากคุณแม่เป็นโรคเบาหวาน อาจเป็นได้ว่าเกิดโรคปลายประสาทอักเสบขึ้น ดังนั้นการรักษาคือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ ส่วนอาการปวดแสบปวดร้อนนั้น หากเป็นมาก อาจใช้ยาที่ช่วยลดอาการ ซึ่งยา gabapentin ที่ทานอยู่สามารถช่วยลดอาการได้ อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ซื้อยาทานเอง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงโดยเฉพาะอาการต่างๆ ทางจิตได้

                   ดังนั้นแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่ามีปลายประสาทอักเสบหรือไม่ หรือมีสาเหตุจากโรคอื่นๆอีก รวมถึงการปรับขนาดยาเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วย