ถามแพทย์

  • ปวดหลังใต้สะบัก 1เดือนแล้วยังไม่หาย ขอคำแนะนำด้วยครับ

  • เริ่มแรกมีอาการปวดที่หลัง บริเวณใต้สะบักด้านซ้าย ปวดลึกลงไปข้างใน ผ่านไป2สัปดาห์ เริ่มปวดที่หลังใต้สะบักด้านขวาเพิ่ม และกระจายไปทั่วหลัง และยังมีอาการปวดเมื่อยบริเวณคอและบ่า ผ่านมา 1เดือนแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น เวลานอนทับจะเจ็บบริเวณใต้สะบักซ้าย เบื้องต้นซื้อยา etoricoxid มาทาน อาการเจ็บปวดดีขึ้น แต่พอยาหมดฤทธิ์ ก็กลับมาปวดอีก ไม่ทราบสาเหตุการปวด พอจะแนะนำวิธีรักษาได้ไหมครับ นอนไม่ค่อยได้ครับปวดมาก

    สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

                   อาการปวดหลังบริเวณใต้สะบักซ้ายและขวา ปวดเมื่อยคอ บ่า อาจเกิดจาก

                  - กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบาดเจ็บ เช่น การหกล้ม การโดนกระแทกแรงๆ การไปยกของหนัก การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายต่างๆ หรือกล้ามเนื้อบาดเจ็บจากการทำงานในท่าเดิมซ้ำๆ เช่น การขุดดิน เลื่อยไม้ เป็นต้น 

                  - เป็นออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเกิดจากการทำงานตลอดวันและไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบถหรือขยับร่างกายมากนัก เช่น นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ หรือทำงานในท่าเดิมซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอาการต่างๆ ได้ เช่น ปวดเมื่อยหลัง ไหล่ คอ สะบัก บ่า แขน ข้อมือ นอกจากนี้ ก็มักมีอาการปวดหัว เวียนหัว ปวดตา ตาแห้ง  ตาพร่า แสบตา ชานิ้ว หายใจไม่อิ่ม เป็นต้น

                  - มีโรคเครียด หรือวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการทางร่างกายต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งอาการปวดหัว เวียนหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามที่ต่างๆ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ ใจสั่น เหงื่อออกที่ฝ่ามือ หายใจไม่สุด เจ็บหน้าอก ปวดท้อง เป็นต้น

                   ในเบื้องต้น ควรงดทำงานหนักต่างๆ เช่น การยกของหนัก เข็นของหนัก การทำสวน งานช่างต่างๆ งดการออกกำลังกายและเล่นกีฬาต่างๆ ไปก่อน หากมีการนั่งหรือยืนทำงานตลอดทั้งวันในท่าทางเดิมซ้ำๆ ก็อาจต้องหยุดพักงานที่ทำ หรือต้องใช้ท่าทางในการทำงานที่ถูกต้อง มีการเปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆ ใช้วิธีการประคบร้อนตรงจุดที่เจ็บ หรืออาจนอนแช่ในน้ำอุ่น และทานยาแก้ปวด โดยหากทานยา etoricoxib อยู่ ก็สามารถทานต่อได้ ซึ่งอาจทานร่วมกับยาคลายกล้ามเนื้อค่ะ

                    แต่หากอาการปวดยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ