ปวดท้องหลังกินข้าวตั้งแต่เด็กๆ จนโตแล้วก็ยังปวด ท้องผูกสลับกับท้องเสียบ่อยมาก ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะคุณ Chantaras

จากอาการปวดท้องดังกล่าวมา อาจมีสาเหตุจาก

-โรคกระเพาะอาหาร เป็นไปได้มากที่สุด หากเป็นการปวดที่สัมพันธ์กับมื้ออาหาร

-ลำไส้แปรปรวน อาจทำให้มีการขับถ่ายที่เปลี่ยนแปลงร่วมด้วยได้

-ปวดท้องจากมีลมหรือน้ำในช่องท้องมาก

-ปวดจากลำไส้อุดตัน แต่มักไม่เป็นเรื้อรัง และอาจมีเรื่องของคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

-ปวดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องอักเสบ แต่มักไม่สัมพันธ์กับการขับถ่าย

โรคกระเพาะ หรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบหรือเกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร สามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในระยะเวลารวดเร็ว มักเป็นในระยะสั้น ๆ และหายภายใน 1-2 สัปดาห์  หรือมีอาการบ่อยครั้งเป็นระยะเวลานานจนเกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดแผลในกระเพาะ

การรักษาคือการควบคุมและลดปัจจัยที่จะทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผลเรื้อรังโดยการใช้ยาลดกรดในกลุ่มโปรตอน ปั๊ม อินฮิบิเตอร์ (Proton Pump Inhibitors) หรือ เอช 2 รีเซพเตอร์ แอนตาโกนีสต์ (H2-Receptor Antagonist หรือ H2 Blocker) เพื่อลดการหลั่งกรด ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ ร่วมกับรับประทานอาหารอ่อนๆสุกสะอาดและรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่นอนหลังรับประทานอาหารทันที  และหลีกเลี่ยงอาหารที่รับประทานแล้วทำให้เป็นมากขึ้น ในบางคนอาจเป็นพวกอาหารเผ็ด อาหารรสจัด หรือน้ำอัดลม ดื่มน้ำมากๆทุกครั้งที่มีการถ่ายเหลวออกมา

หากมีอาการถ่ายดำ ถ่ายเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด ปวดท้องมาก น้ำหนักลด กินได้น้อยผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์