ถามแพทย์

  • คุณพ่อเป็นวัณโรคปอด กินยาแล้วมีปัญหาในการกินอาหาร อ่อนเพลีย ตับอักเสบ ต้องทำอย่างไรค่ะ

  •  nui.tharin
    สมาชิก
    ได้อ่านคำถามเรื่องวัณโรคอีกหัวข้อนึงแล้วค่ะ คุณพ่ออายุ 72 ปี ป่วยเป็นวัณโรคค่ะ เพิ่งตรวจพบเมื่อต้นเดือน พฤษภาคมนี่เองค่ะ พอวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคแล้ว คุณหมอจ่ายยา rimstar มาให้ทาน 4 เม็ด ทานได้ประมาณ 3 วัน พ่อมีอาการเบื่ออาหาร และอ่อนเพลียเล็กน้อยเลยพาคุณพ่อกลับไปพบคุณหมออีกครั้งนึง admit ที่ รพ. ตรวจค่าตับยังคงปกติ แต่คุณหมอบอกว่าอายุเยอะแล้ว เลยปรับยาให้คุณพ่อ เป็นยาเม็ดแยก ทานแค่ 3 ตัว โดยตัด ตัวยา ไพราซินาไมด์ออก คุณพ่อกลับมาทานยาได้ประมาณ 3 วันเริ่มมีอาการเบื่ออาหารรุนแรง ข้าวแทบจะไม่แตะเลย นอนไม่หลับ เลยขอยาคลายเครียดจากคุณหมอคนเดิมมาทาน วันละ 1 เม็ด หลังจากทานยาคลายเครียดไป คุณพ่อนอนทั้งวันเลย ทานอาหารได้น้อยมาก แต่คิดว่าน่าจะเป็นผลข้างเคียงของยาเลยอดทนทานยาจนครบวันหมอนัด คือวันนี้ ซึ่งผลเจาะเลือดตรวจค่าตับ ค่าตับขึ้นไปถึง 400 (จากเดิม 37 ผ่านไป 7 วันเอง) วันนี้ admit รพ อีกรอบ วัดค่าเกลือแร่ในร่างกายต่ำ 109 รบกวนปรึกษาคุณหมอหน่อยนะคะ ว่าควรทำยังไงดีคะ เพราะตอนนี้คุณหมอให้หยุดยาวัณโรค ( เคยปรึกษาพ่อของสามีซึ่งป่วยเป็นวัณโรคเหมือนกัน ท่าน admit ที่ รพ ใน กทม . สามีบอกว่ามีการพ่นยาฆ่าเชื้อเข้าทางทางเดินหายใจด้วย และจ่ายยา เป็น ตัว rifinahและ Lambutal พ่อของสมมีไม่มีอาการแพ้เลย) อยากทราบว่ายาวัณโรคคนละยี่ห้อ จะมีผลให้ผลข้างเคียงมากน้อยต่างกันมั๊ย และรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจนิดนึงว่ากรณีของคุณพ่อ รักษาที่ รพ ต่างจังหวัด ไม่เห็นมีการพ่นยาฆ่าเชื้อ อะไรเลย แถมปรับยาไปมาจนตอนนี้พ่อดูอาการไม่ดีเลยค่ะ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ

     สวัสดีคะคุณ nui.tharin

    การรักษาเรื่องของการติดเชื้อวัณโรคปกติ สูตรยา จะเป็น 

    2IRZE+4IR 

    • isoniazid
    • pyrazinamide
    • ethambutol (Myambutol)
    • rifampin (Rifadin)

      จากรายงานการวิจัย การใช้ยา isonazid มักจะไม่ค่อยใช้ในผู้สูงอายุเนื่องจากมีผลต่อตับมากค่ะ ทำให้มีการอักเสบของตับค่ะ

      ตอนนี้คุณพ่อควรจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลค่ะ 

      เพราะเนื่องจากมีเกลือแร่ในร่างกายที่ผิดปรกติ การกินยารักษาวัณโรคมักจะมักทำให้มีการอ่อนเพลียได้ค่ะ

      การใช้ยา สามารถให้ยาทีละตัวได้ค่ะ แต่ต้องมีการปรับยา ค่อยๆ ปรับให้ยาเข้าไปทีละตัวค่ะ จะทำให้ต้องกินยานานกว่าปรกติค่ะ 

      ซึ่งการรักษาก็ยังให้ผลค่อนข้างดีค่ะ

      ตอนนี้ยาใหม่ที่มีออกมาใช้ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เฉพาะทางจะมียาดังนี้ค่ะ

      1. Bedaquiline
      2. Delamanid
      3. Clofazimine

      อย่างไรก็ตามควรได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางระบบการติดเชื้อค่ะ