ใส่ถุงยางและหลั่งนอก ประจำเดือนไม่มา 2 อาทิตย์ มีตกขาวใสออกมาก จะท้องไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Tommy,

                    การใช้ถุงยางอนามัยนั้น หากใช้ถุงยางอนามัยชายอย่างถูกต้อง 100% จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% แต่โดยทั่วไปแล้วจากการใช้งานจริง พบโอกาสการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 18% เนื่องจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งได้แก่ ถุงยางหมดอายุ มีรอยรั่วซึมหรือรอยฉีกขาด ใช้กรรไกร เล็บหรือฟันในการแกะห่อถุงยาง มีการใช้ฟันกระทบกัดถุงยางก่อนใส่เข้าช่องคลอด สอดใส่สิ่งแปลกปลอมไว้ในช่องคลอด ใช้ทาวาสลีนที่ถุงยาง ขณะดึงอวัยวะเพศชายออกถุงยางหลุดคาช่องคลอด ใช้ถุงยางซ้ำมากกว่า 1 ครั้ง ใส่ถุงยางซ้อนกัน เป็นต้น

                 การคุมกำเนิดโดยการการหลั่งนอก ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 4 ถึง 22% เนื่องจากแม้จะหลั่งอสุจิภายนอกร่างกายของเพศหญิง แต่ในระหว่างที่นำอวัยวะเพศออกมาจากช่องคลอดก็อาจมีอสุจิบางส่วนหลั่งออกมาแล้ว อีกทั้งขึ้นอยู่กับความเร็วของฝ่ายชายที่จะนำอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดหลังจากถึงจุดสุดยอด ก่อนที่อสุจิจะถูกหลั่งออกมาด้วย และหากมีเพศสัมพันธ์ต่ออีกครั้งทันที ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น เพราะอาจมีอุสจิค้างอยู่ที่ปลายอวัยวะเพศและท่อปัสสาวะ อสุจิที่ค้างอยู่อาจออกมาในขณะที่กำลังมีเพศครั้งใหม่ได้

                ดังนั้นการที่ประจำเดือนไม่มา สาเหตุจึงอาจมาจากการตั้งครรภ์ได้ค่ะ ดังนั้นหากประจำเดือนขาดไปนาน 2 สัปดาห์แล้ว ควรตรวจหาการตั้งครรภ์เป็นอันดับแรกค่ะ ซึ่งหากตครวจพบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็อาจมีสาเหตุจากอื่นๆ ได้ค่ะ เช่น ความเครียด พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก อดอาหาร ออกกำลังกายมากไป เป็นต้น

               สำหรับอาการตกขาว หากเป็นสีใสๆ ไม่มีอาการแสบหรือคันช่องคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีปวดท้องน้อย ก็ถือเป็นตกขาวที่ปกติค่ะ ทั้งนี้ปริมาณอาจขึ้นอยู่กับช่วงรอบของประจำเดือนค่ะ โดยในช่วงที่มีไข่ตก มักมีปริมาณที่มากขึ้นได้ค่ะ หรือในกรณีที่ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ ก็อาจมีตกขาวมากขึ้นได้เช่นกัน