อายุ 20 ปี ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อคุมกำเนิด ประจำเดือนไม่มา 2 เดือน ตรวจแล้วไม่ท้อง ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Med fonnn,

               สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มา ได้แก่

               1. การตั้งครรภ์ แต่หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้วพบขึ้น 1 ขีด ก็ไม่น่าใช่ค่ะ

               2. ความเครียด การออกกำลังกายอย่างหักโหม ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดอาหาร น้ำหนักลด แต่อาการขาดประจำเดือนมักเป็นอยู่ไม่นาน

               3.โรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้

               4. ภาวะที่รังไข่ทั้ง  2 ข้างมีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก เรียกว่า polycystic ovary syndrome (PCOS) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่นและวัยสาว โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิว ขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป

               5. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ซึ่งจะไปมีผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศของต่อมใต้สมอง

                6. เป็นเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่มักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหัว มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำไหลจากหัวนม เป็นต้น

               หากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 รอบเดือน แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุนะคะ ส่วนใหญ่ในอายุวัยนี้ มักเกิดจากมีภาวะที่รังไข่ทั้ง  2 ข้างมีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมากค่ะ 

               และหากมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง แนะนำให้ใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าถุงยางอนามัยค่ะ เช่น ยาคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นต้น