ถามแพทย์

  • ประจำเดือนไม่มา

  •  pranornid
    สมาชิก
    ปกติกินยาคุม21ติดต่อกันมาเป็นเวลา2ปีกว่าๆ ระหว่างระยะเวลาสองปีก็มีหยุดกินบ้าง2-3เดือนแบบไม่ติดต่อกัน กินติดต่อกันมาเรื่อยๆ จนเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมากินยาคุมหมดครบทั้งแผง21เม็ด ประจำเดือนมาปกติจนหมดประจำเดือนของเดือนเมษาประมานวันที่19-20เมษา หลังจากนั้นก็ไม่ได้กินยาคุมของแผงต่อไป แล้วไปมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบป้องกันใส่ถุงยางทุกครั้ง โดยปกติถ้ากินยาคุมประจำเดือนจะมาประมานวันที่9-11พฤษา แต่ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มา มีแต่ตกขาวและอาการของการมีประจำเดือนปกติ เช่น คัดหน้าอก มีสิวขึ้น รู้สึกเหมือนประจำเดือดไหลแต่พอเข้าห้องน้ำดูก็ไม่มี จะท้องมั้ยคะ
    pranornid  pranornid
    สมาชิก
    ตอบหน่อยนะคะ กังวลมากค่ะ
    pranornid  pranornid
    สมาชิก
    หมอเว้นของหนูไม่ตอบเลยค่ะ

     สวัสดีค่ะ คุณ pranornid,

                       เมื่อหยุดทานยาคุมกำเนิด ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ย่อมหมดลงไปในทันที ดังนั้นการที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจาก

                       1. การตั้งครรภ์ แม้จะใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%

                      2. หลังหยุดยาคุมกำเนิด การทำงานของรังไข่และการตกไข่จะเริ่มเกิดขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ในบางรายอาจนานกว่านี้ได้ เมื่อยังไม่มีไข่ตก ประจำเดือนจึงยังไม่เกิดขึ้น

                      3. มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร น้ำหนักลด ซึ่งจะไปมีผลต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้ไข่ตกช้าขึ้น

                       สำหรับอาการคัดหน้าอก มีสิวขึ้น มีตกขาว อาจเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้ค่ะ ดังนั้น แนะนำให้รอประจำเดือนไปอีกซักระยะค่ะ หากประจำเดือนไม่มานานเกิน 5 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่หยุดทานยาคุมกำเนิด ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูค่ะ