รับประทานยาคุม และมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งใน ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มา ควรจะต้องทำอย่างไรคะ

สวัสดีค่ะ คุณ Jane Greiser,

                   หากประจำเดือนเริ่มมาวันที่ 30 ต.ค. และมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 2 ธ.ค. เท่ากับมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 4 นับจากวันที่มีประจำเดือนมา ถือว่ายังอยู่ในระยะปลอดภัย โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นถือว่าน้อย

                  ส่วนการเริ่มทานยาคุมกำเนิดในวันที่ 2 ธ.ค. เท่ากับทานภายในไม่เกิน 5 วัน นับจากวันที่มีประจำเดือนมา ยาคุมกำเนิดก็จะสามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันได้ทันที แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะทานยาอย่างถูกต้อง ยาคุมกำเนิดก็ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% อีกทั้งหากเป็นการเริ่มทานยาเป็นแผงแรก โอกาสที่จะมีการตกไข่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นไปได้บ้างค่ะ ดังนั้นการที่ประจำเดือนไม่มา อาจเกิดได้จาก

                   1. การตั้งครรภ์ แต่หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์จากปัสสาวะแล้วขึ้น 1 ขีด ก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ

                  2. การทานยาไม่ถูกต้อง โดยหากทานยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด แล้วไม่ได้เว้นระยะ 7 วัน แล้วทานยาแบบ 28 เม็ดต่อเลย ก็จะทำให้ประจำเดือนไม่มาค่ะ เนื่องจากไม่มีช่วงเว้นระยะให้ฮอร์โมนลดระดับลงและมีประจำเดือนมา

                  3. การทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องนานๆ อาจทำให้ประจำเดือนมาน้อยลงและขาดหายไปได้ เนื่องจากเยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อบางลง ซึ่งไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด 

                   แนะนำให้ลองตรวจหาการตั้งครรภ์ซ้ำอีกครั้ง หากตรวจพบขึ้นแค่ 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่น่าจะตั้งครรภ์ค่ะ แนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดต่อ โดยควรทานในเวลาใกล้เคียงกันของทุกวัน หากทานแบบ 28 เม็ดก็ให้ทานต่อเนื่อง 28 วันจนหมดแผงแล้วต่อด้วยแผงใหม่ โดยไม่ต้องรอว่าประจำเดือนจะมาและหมดเมื่อไหร่ หากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้ทานต่อเนื่อง 21 วันจนหมดแผงแล้วเว้นระยะ 7 วัน แล้วจึงต่อด้วยแผงใหม่ โดยไม่ต้องรอว่าประจำเดือนจะมาและหมดเมื่อไหร่เช่นกัน