ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมาเรื่อยๆ หมอบอกปากมดลูกอักเสบ กินยาหายไปแล้วเป็นอีก เยอะกว่าเดิม เป็นอะไร

  • ประจำตัวมาตั้งแต่ต้นปี​ มาเลื่อยๆ​ ไปหาหมอหมอบอกปากมดลูกอักเสบให้ยาr-denมาประจำเดือนหายไปอาทิตนึง แล้วก่มาอีก​ เยอะกว่าเดิม ปกติใช้ผ้าอนามัยวันละ2ถึง3แผ่น​ แต่ตอนนี้ใช้วันละ4ถึง5แผ่น​ อยากถามว่าเป็นอะไรกันแน่คะ

    สวัสดีค่ะ คุณ จื่อ 'เบียร์,

                      การมีเลือดประจำเดือนออกผิดปกติ คือมานานกว่า 7 วัน หรือมีระยะห่างน้อยกว่า 21 วัน หากไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ ก็อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น

                      1. มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น 

                       2.  เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ (ใม่ใช่ปากมดลูก) แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย

                       3. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ 

                       4. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น

                        5. การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น 

                        ส่วนการเป็นปากมดลูกอักเสบ ไม่น่าทำให้มีเลือดออกปริมาณมากได้ มักทำให้เกิดเลือดออกแบบกะปริดกะปรอย ตกขาวปนเลือด และมีตกขาวที่ผิดปกติมากกว่า

                        หากยังคงมีเลือดประจำเดือนออกมามาก หรือออกมาบ่อยๆ แนะนำควรไปพบแพทย์เฉพาะทางสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ