ถามแพทย์

  • กินยาคุมมา 2 ปี แต่แผงนี้ทานไปได้ 14 เม็ดแล้วมีเลือดสีน้ำตาลออกมา อันตรายไหม

  •  psw
    สมาชิก
    หนูกินยาคุมของมินิดอสแบบ 28 มาประมาณ2 ปีคะ แล้วมาเดือนนี้ไปซื้อยาที่ร้านขายยามันเปลี่ยนแพ็คเกจใหม่หนูถามแล้วนะคะว่าตัวยาเหมือนเดียวกันไหม เขาก็บอกว่าตัวยาเดียวกันคะแล้วหนูกินไป 14เม็ดเหลือเม็ดฮอร์โมนประมาณ 10 เม็ด ทั้งๆที่ยาคุมยังไม่หมดแผงประจำเดือนหนูมาแล้ว(วันนี้ประจำเดือนมาได้ 3 วันแล้วคะ)ในวันที่มาวันแรกไม่มีอาการใดๆลักษณะของประจำเดือนจะเป็นสีน้ำตาลเข้มหลุดมาเป็นแผ่นๆแล้วมีสีแดงบ้าง มันผิดปกติ จะมีอันตรายไหมค่ะ หนูควรทำยังไง

    สวัสดีค่ะ คุณ psw,

                        ยาคุมกำเนิดยี่ห้อมินิดอซ (minidoz) เป็นยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ที่มีเม็ดยาที่เป็นฮอร์โมน 24 เม็ด และเม็ดแป้ง 4 เม็ด โดยเม็ดยาที่มีฮอร์โมนประกอบด้วย ethinylestradiol 0.015 มิลลิกรัม กับ Gestodene 0.06 มิลลิกรัม ซึ่งถือเป็นยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ ดังนั้น มักเกิดผลข้างเคียงเรื่องการมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้บ่อย 

                        ดังนั้นเลือดสีน้ำตาลเข้มปนแดงที่ออกมาในขณะที่ทานยาเม็ดที่ 14 อยู่ น่าจะเป็นอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมได้ ซึ่งหากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มากเกินไป ไม่มีปวดท้องน้อยรุนแรง ไม่มีตกขาวที่ผิดปกติ ก็ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน และที่สำคัญต้องไม่ลืมทานยา และพยายามทานยาคุมให้ตรงเวลา เพราะการทานยาคุมในเวลาที่ต่างกัน อาจมีผลทำให้เกิดเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำดังกล่าว

                        หากทานยาจนครบ 24 เม็ด แล้วหลังจากนั้น 1-2 วัน ได้มีประจำเดือนมา ก็จะถือว่าปกติดีค่ะ เมื่อทานจนครบ 28 เม็ด ก็ให้เริ่มทานยาคุใแผงใหม่ได้ตามปกติ