ประจำเดือนมา 2 เดือนครั้ง ไม่ปวดท้องน้อย แต่ปวดขาใกล้กับอวัยวะเพศแทน

สวัสดีค่ะ คุณ Samita Unreun,

               หากมีระยะห่างของรอบประจำเดือนมากกว่า 35 วัน (oligomenorrhea) หรือ 2 เดือนมาครั้งดังกล่าว อาจเกิดได้จาก 

                1. การใช้ยาฮอรโมนต่างๆ เป็นระยะเวลานาน เช่น เม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด เป็นต้น

                 2.โรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ 

                3. น้ำหนักน้อยกว่าปกติ หรือน้ำหนักตัวลดลงรวดเร็ว ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนของต่อมใต้สมองได้เช่นกัน 

                4. มีภาวะไทรอยด์ไทรอยด์เป็นพิษหรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำก็ได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศของต่อมใต้สมองเช่นกัน

                5. มีภาวะถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยมักจะมีรูปร่างอ้วน ขนดก ผิวมัน มีสิวเยอะ 

                6. มีพังผืดในมดลูก จากการเคยมีมดลูกอักเสบ

                ส่วนอาการในขณะมีประจำเดือนนั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจไม่มีอาการอะไร บางคนอาจมีเพียงบางอาการ บางคนอาจมีหลายอาการก็ได้ เช่น อาการปวดท้องน้อย ท้องอืด เจ็บหน้าอก ปวดหลัง ปวดขา ปวดหัว อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เป็นต้น

                 หากอาการปวดขาไม่ได้รุนแรง ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรค่ะ ส่วนอาการที่ประจำเดือนมา 2 เดือนครั้ง หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีน้ำหนักลดลงเร็ว หรือมีน้ำหนักตัวมาก มีตกขาวที่ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ