ถามแพทย์

  • ขาหนีบบวม กดแล้วเจ็บนิดๆ เป็นต่อมน้ำเหลืองโตไหม ควรทำอย่างไร

  •  Aruto
    สมาชิก
    ที่บริเวณขาหนีบมีอาการบวมครับ กดลงไปแล้วรู้สึกเจ็บนิดๆ ไม่ถึงกับเจ็บมาก ผมคิดว่าน่าจะเป็นต่อมน้ำเหลืองโตครับ ผมควรทำอย่างไร หรือ มียาตัวไหนยี่ห้อใดที่สามารถหาซื้อได้มารักษาบ้างครับ อาการเบื้องต้น มีอาการบวม กดแล้วเจ็บนิดๆ ผิวหนังพุพอง หรือมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ (ผมไปหาข้อมูลมา)

    สวัสดีค่ะ คุณ Aruto,

                         อาการบวมที่ขาหนีบ และเจ็บ อาจเกิดจาก

                    1. ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบโต ซึ่งมักเกิดจาก

                       - การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ฝีมะม่วง เป็นต้น โดยจะมีตุ่มหรือแผลเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศนำมาก่อน

                       - การมีแผลอักเสบติดเชื้อบริเวณขาเป็น ๆ หายๆ หรือมีแผลเรื้อรังอยู่

                      -  ส่วนสาเหตุที่พบน้อย เช่น การติดเชื้อวัณโรค มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งของเซลล์ที่ผลิตเม็ดสี (malignant melanoma) เป็นต้น

                    2. ไส้เลื่อนขาหนีบ มักทำให้คลำได้เป็นก้อนที่ขาหนีบหรืออัณฑะโดยก้อนจะโตขึ้นในขณะที่ยกของหนัก ไอหรือจามแรงๆ แต่เมื่อนอนราบลง ก้อนมักจะยุบหายไป และมีอาการปวดหน่วงๆ บริเวณท้องน้อยและขาหนีบ 

                    3. เป็นซีสต์หรือก้อนเนื้องอกชนิดต่างๆ ของชั้นผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

                    4. มีการอักเสบติดเชื้อของชั้นผิวหนังและชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง รวมถึงการเกิดเป็นฝีหนอง โดยผิวหนังจะเกิดการบวมแดง และอาจทำให้มีไข้ ปวดเมื่อย อ่อนเพลียได้

                    หากขาหนีบยังคงมีอาการบวมและเจ็บ แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใดค่ะ เพราะการรักษาจะแตกต่างกันไปค่ะ ทั้งนี้ แม้จะเป็นต่อมน้ำเหลืองโต แต่หากเกิดจากเชื้อที่ต่างกัน ยาที่ใช้ก็จะต่างกันค่ะ ในเบื้องต้น ก็ไม่ควรไปจับ กด นวดคลึงบริเวณขาหนีบ ไม่ใส่กางเกงชั้นในที่รัดแน่นเกินไป เป็นต้น