ถามแพทย์

  • อายุ 40 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา น้ำอสุจิมีเลือดปนประมาณ 7 ครั้ง เวลาดึงหนังหุ้มปลายสุดแล้วเจ็บ ตึง รักษาอย่างไร

  •  Tcool
    สมาชิก

    ผมอายุ40 ร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว แต่มีอาการน้ำอสุจิมีเลือดปน อยู่บ่อยๆ คือใน2ปีที่ผ่านมาเป็นมาแล้ว 7ครั้ง คือจะเป็นๆหายๆ พอเป็นผมจะหยุดการหลั่งไป1เดือน ซึ่งก็จะหาย พอผ่านไปสัก1-2เดือนก็กลับมาเป็นอีก เคยไปหาหมอมาแล้ว หมอตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากทางทวารหนักและตรวจเลือด ก็ปกติไม่เป็นมะเร็ง ทุกครั้งพอเป็นก็มีการกินยา ปฏิชีวนะกับยาลดบวม ที่หมอเคยสั่งให้(เค้าบอกถ้าเป็นอีกก็ซื้อกินเองได้) ตัวผมเองสังเกตุว่าที่เลือดออกมักจะเกิดจากการที่หนังหุ้มปลายลงมาสุดๆ (บางครั้งเหมือนผมรู้สึก เหมือนปึ๊ด คล้ายมีอะไรถูกดึงจนตึงแล้วขาดอยู่ภายใน แล้วพอหลั่งก็มีเลือดปนออกมา มากน้อยแล้วแต่ครั้ง) อยากทราบว่าอย่างนี้จะมีแนวทางรักษาอย่างไรดีครับ

    Tcool  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Tcool

    การหลั่งน้ำอสุจิที่มีเลือดปนออกมานั้นถือว่าเป็นความผิดปกติค่ะ สาเหตุที่เป็นไปได้เช่น การอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณท่อปัสสาวะ มีการบาดเจ็บของ องคชาติ ท่อปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก ถุงเก็บน้ำอสุจิ ท่อนำอสุจิ หรือบริเวณอัณฑะ หรือเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองที่รุนแรง การดึงบริเวณหนังหุ้มปลายแรงเกินไปแล้วมีการฉีกขาด เป็นต้น

    ซึ่งไม่ควรจะปล่อยเอาไว้ ถ้ามีอาการต่อเนื่อง เจ็บตรงอวัยวะเพศต่อเนื่องด้วย ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง แพทย์อาจส่งต่อแพทย์เฉพาะทางด้านทางเดินปัสสาวะเพื่อตรวจอย่างละเอียดต่อไป 

    ในเบื้องต้นงดการช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน เวลาสัมผัสหรือล้างตรงอวัยวะเพศหรือรูดหนังหุ้มปลายต้องทำอย่างเบามือและรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้ดี ถ้าเป็นแค่การฉีกขาดภายนอกไม่เยอะอาจหายเองหรือเย็บซ่อมแซมได้ แต่หากเป็นปัญหาของทางเดินปัสสาวะหรือการติดเชื้อก็ต้องรักษาตามสาเหตุนั้นๆต่อไปค่ะ