ถามแพทย์

  • เลยกำหนดฉีดยาคุม หมอให้รอจนประจำเดือนมาก่อน กลับมามีเพศสัมพันธ์หลั่งใน จะท้องไหม ตอนนี้ประจำเดือนก็ยังไม่มา

  •  Chalinee Chakatdachawong
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ดิฉันมีคำถาม อยากจัเรียนถามคุณหมอ ดังนี้ค่ะ คือ ดิฉันมีบุตรแล้ว 3 คน คนล่าสุดเพิ่งจะได้ 1ขวบ 1เดือนกว่า ก็ฉีดยาคุม แบบ 3 เดือน มาตลอด จนกระทั้ง ล่าสุด กำหนดฉีด อีกทีวันที่ 19 กรกฏาคม 2561 ก็ไม่ได้ไปฉีด จนเลยกำหนดพอจะไปฉีด หมอแนะนำว่าให้เริ่มต้นฉีดใหม่ แต่ประจำเดือนต้องมาก่อน ดิฉันก็เลยไม่ได้ฉีด ไม่ได้กินยา หลังจากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์กับแฟน 2-3 ครั้ง แล้วแฟน ก็หลั่งในทุกครั้ง อยากเรียนถามคุณหมอว่า แบบนี้จะมีโอกาศท้องไหมค่ะ ณ.ตอนนี้ประจำเดือนก็ยังไม่มาเลยค่ะ เครียดมากรบกวนคุณหมอช่วยตอบหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ  

    ยาคุมกำเนิดแบบฉีด จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยยาที่ฉีดเข้าไปจะซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ร่างกายหยุดการตกไข่ สร้างเมือกหนาที่คอมดลูกเพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ รวมทั้งทำให้เยื่อบุมดลูกบางลงเพื่อไม่รองรับไข่ที่ตกออกมา หากใช้ถูกวิธี จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 99% หากเป็นการฉีดยานี้ครั้งแรกต้องรอนานประมาณ 7 วันจึงจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด แต่หากเป็นการฉีดต่อเนื่องจากครั้งก่อนจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดทันที

    โดยยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงที่สำคัญ คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจมีประจำเดือนมามาก ประจำเดือนมาเป็นระยะเวลาสั้น ประจำเดือนมาน้อย หรือประจำเดือนขาด โดยจะเกิดภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติหากสารโปรเจสโตเจนที่ฉีดเข้าไปยังอยู่ในร่างกาย หากต้องการให้ประจำเดือนมาตามปกติหรือต้องการตั้งครรภ์ ต้องใช้เวลาสักพักใหญ่หลังจากหยุดฉีดยาคุม ซึ่งใช้เวลา 8-12 สัปดาห์เพื่อให้สารโปรเจสโตเจนออกจากร่างกายจนหมด

        ในกรณีนี้บอกได้ยาก ว่าตั้งครรภ์หรือไม่ แนะนำว่าอาจทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง

    ถ้าไม่ตั้งครรภ์ สามารถคุมกำเนิดด้วยวิธีต่าง ๆ ได้ทันที หากยังสงสัยหรือไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรอีกครั้งค่ะ