ถามแพทย์

  • รับประทานอาหารแล้วอาเจียนออกมาเป็นประจำ และท้องอืด เป็นมา 5 สัปดาห์แล้ว เกิดจากอะไร

  •  Molo Tov
    สมาชิก

    หลังจากทานอาหาร (ข้าว เนื้อสัตว์) ไม่เกิน 1 ชม จะอาเจียนออกมาเกือบทุกครั้ง มีอาการท้องอืด, เลอและ เวียนหัวร่วมด้วย แต่ถ้าหากทานเป็นอาหารเหลว (เวย์โปรตีน) จะไม่ค่อยอาเจีียนครับ
    อาการทั้งหมดนี้เป็นติดต่อกันมาเกือบ 5 สัปห์ดา น้ำหนักลดลงไป 3 กิโล จึงอยากทราบว่า
    1. มีโอกาสเป็นโรคอะไรบ้าง
    2. มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งกะเพาะอาหารหรือไม่ 
    3. ถ้าหากรออีก 40 วัน แล้วค่อยไปรักษาจะส่งผลอย่างไรบ้าง (ยังไม่ถึงระยะคุ้มครองของบริษัทประกัน)

    Molo Tov  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณผู้ใช้งาน

    อาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืดหลังการรับประทานอาหารนั้น อาจมีสาเหตุมาจากภาวะกรดไหลย้อน มีแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น กระเพาะอาหารอักเสบ หรือมีลำไส้อักเสบ อาหารเป็นพิษจากการรับประทานอาหารที่ไม่สุกสะอาด หรือเป็นภาวะตับอักเสบเฉียบพลันอาจมีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลืองด้วยได้

    จากที่กล่าวมา ถ้าเป็นค่อนข้างเรื้อรังเกิน 1 เดือน ร่วมกับมีน้ำหนักลด อาจจะต้องนึกถึงกลุ่มเนื้องอกไม่ว่าจเป็นเนื้องอกกระเพาะอาหารหรือตรงหลอดอาหารไวด้วยได้เช่นกัน แม้โอกาสจะค่อนข้างน้อย ซึ่งการให้ได้การวินิจฉัยอาจต้องตรวจเพิ่มเติมเช่นเอ็กซเรย์หรือส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้น

    ในเบื้องต้นรับประทานอาหารอ่อนๆที่ย่อยง่าย กลิ่นและรสไม่จัด กินอาหารให้ตรงเวลา ไม่กินแล้วนอนทันที ดื่มน้ำเปล่าสะอาดมากๆ ถ้าคลื่นไส้มาก อาจจะกินยาแก้คลื่นไส้เพื่อบรรเทาอาการด้วยได้

    ควรไปพบแพทย์ถ้าคลื่นไส้เยอะตลอดเวลา จนทำให้กินได้น้อย อ่อนเพลีย มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือมีถ่ายดำ น้ำหนักลดเร็วร่วมด้วย