-
ทานยาคุมอยู่ ประจำเดือนมาเกินสองอาทิตย์แล้ว เกิดจากอะไร
-
Aug 30, 2019 at 10:14 AM
สวัสดีคะคุณหมอ พอดีหนูเริ่มทานยาคุม ไดแอน ตอนประจำเดือนมาวันแรกตามปกติ พอดีหยุดทานไปเดือนนึงแล้วมาเริ่มเดือนนี้ใหม่ แต่ตอนนี้ ประจำเดือนมา16วันแล้ว เลือดออกแบบปกติ มีสีแดง ดำ น้ำตาลบ้าง แล้วแต่วันค่ะ มีอาการปวดท้องเล็กน้อยวันหรือสองวัน มีอาการคลื่นไส้ เวียนหัวเล็กน้อย รู้สึกเหมือนมีไข้บางวัน ในระหว่างกินยาคุมมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกัน1ครั้ง อยากทราบว่าอาการแบบนี้เป็นอะไร แล้วควรไปหาหมอมั้ยค่ะ พอดีลำบากนิเนึงอยู่ต่างประเทศ ต้องอธิบายให้คุณหมอฟังเป็นภาษาญี่ปุ่น รบกวนด้วยนะคะAug 30, 2019 at 08:16 PM
สวัสดีค่ะคุณ Akita
หากมีประจำเดือนมาติดต่อกันเกิน 2 อาทิตย์น่าจะเป็นเลือดออกทางช่องคลอดที่มากผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก
-เนื้องอกมดลูกหรือปากมดลูก
-มีการติดเชื้อที่ช่องคลอดหรือปากมดลูกหรือมดลูก
-มีบาดแผลบริเวณช่องคลอดหรืออวัยวะเพศภายนอก
-อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานสตรีอักเสบ อาจมีไข้ ร่วมกับตกขาวผิดปกติด้วย
-ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก
โดยผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิด อาจทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยได้บ้าง แต่ไม่ควรมาติดต่อกันมากผิดปกติดังที่กล่าวมา
แนะนำไปพบสูตินรีแพทย์ค่ะ เพราะการเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดเป็นเป็นภาวะที่ต้องหาสาเหตุและแก้ไขค่ะ แพทย์อาจตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะ ตรวจการตั้งครรภ์ ร่วมกับทำอัลตราซาวน์หน้าท้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป
การดูแลตัวเองเบื้องต้น งดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมารับประทานเอง ถ้ามีอาการซีดอ่อนเพลียจากเสียเลือดมาก ไข้สูง ตกขาวผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ และในขณะนี้ควรงดการใช้ยาคุมกำเนิดไปก่อนค่ะ
-
ถามแพทย์
-
ทานยาคุมอยู่ ประจำเดือนมาเกินสองอาทิตย์แล้ว เกิดจากอะไร