-
ตรวจhivมา4ครั้งผลเป็นลบ4ครั้งหลังเสี่ยง6เดือนแต่มีอาการคล้ายhivมาก
-
Jul 17, 2018 at 12:46 AM
สวัสดีครับคุณหมอขอสอบถามเรื่องผลตรวจhivครับเหตุการอาจจะซับซ้อนนิดนึงนะครับ ผมจะเรียบเรียงเหตุการอย่างละเอียดนะครับ คือผมเสี่ยงไปมีsexกับคนที่พึ่งรู้จักโดยไม่ป้องกันในช่วงวันที่20/12/60และหลังจากนั้น2วันผมเกิดอุบัติเหตุรถล้มเป็นแผลที่ขาและเท้าแล้วหมอก็ฉีดยาฆ่าเชื้อวันล่ะเข็มจำนวน3วัน+ยากระตุ้นบาดทยักและให้ยาฆ่าเชื้อมากินจากนั้นวันที่4หลังจากเสี่ยงมีจุดแดงไม่คันขึ้นทั่วมือและเท้าทั้งสองข้างหลังจากนั้นก็เริ่มลอกเป็นนานเป็นเดือนกว่าจะลอกหมดและหายในที่สุดหลังจากเสี่ยงวันที่6ตุ่มแดงเหมือนยุงกัดขึ้นทั่วตัวอีกประมาณ1สัปดาห์ก็หายไป ต่อมา10วันหลังเสี่ยงมีอาการลิ้นเป็นฝ้า ตัวดำขึ้น แขนรีบลง แขนและมือชา หนังเหี่ยว ขอบตาคล้ำและเหี่ยวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการมันชัดขึ้นเรื่อยๆจากหลังเสี่ยง21วันผมเลยรวบรวมความกล้าไปตรวจที่คลีนิคนิรนามโดยผลที่ได้เป็นลบครับ แต่ว่าอาการลิ้นเป็นฝ้าก็ยังรบกวนจิตใจเรื่อยๆเพราะคอแห้งมากแทบไม่มีน้ำลายต่อมาประมาณ1เดือนหลังเสี่ยงผมมีอาการเป็นไข้เจ็บคอทอลซิลอักเสบผมเลยตัดสินใจลองตรวจเบาหวาน ไทรอยด์และcbcเพื่อตัดช้อยส์ทุกอย่างปกติหมดยกเว้นcbcที่มีค่าlym15%และNEU75%ซึ่งหลุดจากค่ามาตรฐานและแน่นอนครับหลังจากเสี่ยงประมาณ1เดือนครึ่งผมตัดสินใจกลับไปตรวจที่คลินิคนิรนามอีกครั้งโดยครั้งนี้ผมพาผู้หญิงคนนั้นไปตรวจด้วยตรวจหาทั้งhivและซิฟิลิสซึ่งผลคือผมและผู้หญิงคนนั้นเป็นลบทั้งคู่ทั้งhivและสิฟิลิสครับหมอก็เลยบอกปิดเคสได้แล้วสบายใจได้เพราะเกิน1เดือนแล้วและเป็นการตรวจยืนยันทางฝ่ายหญิงด้วยครั้งนี้ผมโล่งขึ้นเยอะผมได้ดำเนินชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปอีกครั้งพอดีช่วงนั้นกลับบ้านและผมก็ใช้มีดโกนที่พึ่งซื้อมาใหม่ในตอนเช้าและตอนเย็นพ่อดันหยิบมาใช้ด้วยแล้วอีกไม่นานประมาณ2สัปดาพ่อก็เริ่มมีอาการผิดปกติคือตัวดำขึ้นลิ้นเป็นฝ้าที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและสิ่งที่ผมไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นคือแม่ก็เริ่มมีอาการลิ้นเป็นฝ้าและนั้นก็ทำให้อาการยิ่งชัดเข้าไปอีกอีกอย่างคือแขนแม่บวมข้างเดียวไม่หายสักทีผมเสิร์จในเน็ตปรากฏว่าเป็นอาการบวมน้ำเหลืองซึ่งมีสาเหตุมาจากไม่มะเร็งเต้านมหรือไม่ก็hiv นั่นยิ่งทำให้อาการจำเพาะหนักเข้าไปอีกผมไม่รู้จะทำยังไงเลยรอให้ครบ3,6เดือนหลังเสี่ยงแล้วตรวจให้ครับทุกโรคคือไวรัสตับอักเสบB,C,hivและซิฟิลิสและผลก็เป็นเหมือนเดิมครับคือnegativeหมดอีกเหตุการคือ6เดือนกว่าๆผมไปตรวจร่างการก่อนเข้าทำงานโดยตรวจไวรัสตับอักเสบb,cและcbcผลปรากฏว่าปกติหมดแม้กระทั้งcbcโดยค่าlympกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปรกติอีกครั้งคือlymp=37% อีกอาการที่น่าสนใจของผมอีกคือท้องเสียเรื้อรังพร้อมกับตัวร้อนเรื้อรังตอนอยู่ห้องแอร์พร้อมกับสิวอักเสบเป็นหนองในร่างกายตามจุดต่างๆแปลกๆเป็นระยะๆเช่นที่ท้ายทอย,ขา,หู,ใต้คาง,ใบหน้าและเกิดที่เดิมซ้ำๆหลายรอบ และทุกครั้งที่เป็นแผลจะหายช้ากว่าปกติและมีแผลเป็นจะนูน องคชาติมีจุดแดงๆขึ้นคล้ายเชื้อราแคนดิด้าต้องล้างทุกวัน เพิ่มเติมอีกหนึ่งอาการของผู้หญิงคนนั้นคือตกขาวมากกว่าปกติผื่นขึ้น จุดช้ำที่ต้นขาขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ อาเจียน ตาคล้ำและโบ๋ลงไปเหมือนคนป่วยเหมือนที่ผมเป็น คุณหมอครับอาการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจริงกับผมและคนรอบข้างคงปฏิเสธไม่ได้แน่นอนว่าคิดไปเองหรือเป็นแค่ชั้วคราวเดี๋ยวก็หายไปแต่นี่มันเป็นมา7เดือนเเล้วครับ แต่ในแง่ของความน่าจะเป็นเชิงการตรวจของเครื่องตรวจผมเป็นวิศวกรผมรู้ดีครับว่าโอกาสผิดพลาดเชิงสถิติแทบไม่มีเลยเพราะตรวจทั้งnat,แอนติเจน,แอนติบอดีจำนวนถึง4ครั้ง+พาผู้หญิงมาตรวจทั้ง3วิธีและอยู่ในช่วงที่เหมาะสมของการตรวจคือ21วัน,1เดือนครึ่ง,3เดือน,6เดือน คือมันขัดแย้งกันระหว่างอาการที่ชัดมากและการตรวจที่โอกาสผิดพลาดน้อยมากๆๆ ผมไม่รู้จะทำยังไงได้แต่เปิดหาข้อมูลอยู่ในเคสแบบเดียวกันซึ่งมีเยอะมากแต่ไม่เจอคำตอบที่ต้องการสักทีผมได้แต่ภาวนาว่ามันจะเป็นเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆที่อาการคล้ายกันที่รักษาได้ ผมเสียใจและสำนึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นTTรบกวนคุณหมอวินิจฉัยทีครับว่ามันคืออะไรกันแน่และถ้ามันแย่เกิดเป็นhivจริงๆจผมและพ่อแม่จะได้เริ่มยาสักที สิ่งที่ผมจะทำต่อไปคือผมพ่อและแม่จะตรวจhivวิธี pcr,cd4,cbcอีกครั้ง,แอนตี้hivวิธีอื่นโรงบาลอื่นรวมถึงตรวจหาไวรัสebvด้วย ผมจะรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่โดยเอาข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และแน่นอนครับผมจะมาอัปเดทที่นี่เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่มีอาการคล้ายผมหรือเพื่อปรับปรุงวิธีการตรวจhivให้แม่นยำมากขึ้น ขอบคุณครับคุณหมอJul 18, 2018 at 08:25 AM
สวัสดีคะคุณ pratam
มารู้จักโรคเอดส์ก่อนนะค่ะ
โรคทางเพศสัมพันธ์ หรือ การติดเชื้อ Sexual transmitted diseases (STD) ซึ่งการติดเชื้อ เอช ไอ วี ก็จัดอยู่ในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ เราจะมาเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณกังวลก่อนนะค่ะ คือ เรื่องการเชื้อ เอช ไอ วี เชื้อ เอช ไอ วี คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งนำไปสู่การเป็นโรคที่เรียกว่าเอดส์ เชื้อนี้รักษาไม่หาย แต่มียาที่ใช้รักษาได้ค่ะ แต่จะไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดได้ค่ะ เพราะเชื้อจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่เรียกว่า ซีดี 4 (CD4 T cell) ทำให้ร่างกายไม่สามารถที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคอื่นๆ ได้ แต่ปัจจุบันนี้มียาต้านไวรัสที่ดีค่ะ สามารถทำให้ระดับของ ซีดี 4 ไม่ลดต่ำลงได้ และทำให้จำนวนไวรัสลดลงได้ค่ะ
ลักษณะอาการที่จะเกิดขึ้นถ้ามีการติดเชื้อไวรัส เอช ไอ วี แบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะแรก เรียกว่า การติดเชื้อระยะแรก ( acute HIV infection stage ) ซึ่งระยะนี้ อาการจะเกิดขึ้นได้ ภายใน 2-4 สัปดาห์ ลักษณะอาการจะมีลักษณะเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป จะมาด้วยอาการไข้ ปวดตามตัว เจ็บคอ มีผื่น ปวดตามข้อ ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ควรจะรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ซึ่งในกรณีของคุณหมอขอแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยัน ในระยะนี้ไวรัสจะมีจำนวนมากดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่ควรใช้สารเสพติดที่ฉีดเข้าเส้นเลือดโดยใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
ระยะต่อมา จะเป็นระยะที่ไวรัสเริ่มจะอาศัยอยู่ในตัวคนไข้ แต่จะไม่แสดงอาการอะไร เรียกว่า clinical latency stage ซึ่งคือจำนวนไวรัสอาจจะไม่ได้มีมากและระยะนี้อาจยาวนานได้ถึง 10 ปี แต่ระยะยังมีการแพร่กระจายของโรคได้
ระยะสุดท้ายระยะที่เรียกว่า เอดส์ (AIDS) ซึ่งระยะนี้ระดับภูมิคุ้มกันจะต่ำมากทำให้มีโอกาสติดเชื้อฉวยโอกาสได้ขึ้นอยู่กับจำนวน CD 4 ที่เหลืออยู่
ตอนนี้ในกรณีที่คุณตรวจแล้วหลายครั้งผลเลือดออกมาเป็นลบ หมอคิดว่าอาจจะไม่ได้มีการติดเชื้อคะ แต่อย่างไรก็ตามควรจะต้องมีการป้องกันต่อไปค่ะ คือ ถ้าเพศสัมพันธ์ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ
ภาวะเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพออาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องของร่างกายที่อ่อนแอและภูมิต้านทานที่ลดลงได้ค่ะ
ดังนั้นพยายามทำจิตใจให้สบายรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอค่ะ
ส่วนในกรณีคุณพ่อและคุณแม่อาจจะต้องพาไปตรวจเพื่อหาสาเหตุของการเจ็บป่วยต่อไปค่ะ
-
ถามแพทย์
-
ตรวจhivมา4ครั้งผลเป็นลบ4ครั้งหลังเสี่ยง6เดือนแต่มีอาการคล้ายhivมาก