ถามแพทย์

  • ตกขาวสีเขียว มีกลิ่นแรงมา 1 อาทิตย์ ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากรักษาความสะอาดไม่เพียงพอหรือไม่

  •  Fang Panpitcha
    สมาชิก
    เมื่อก่อนเคยเป็นตกขาว(สีขาว)ไม่มีกลิ่น ก่อนหรือหลังประจำเดือน1-2วันก็หายค่ะ แต่ตอนนี้เป็นตกขาว(สีเขียว)มีกลิ่นแรงมาก มาอาทิตย์นึงแล้วค่ะ ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หนูกลับจากเรียนเหนื่อยๆเลยเผลอหลับไม่ได้อาบน้ำก่อนนอนก็มีบ้าง อาจจะเพราะรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ ควรจะรักษายังไงดีคะ?

    สวัสดีค่ะ คุณ Fang Panpitcha,

                   อาการตกขาวสีเขียว มีกลิ่นแรง ถือเป็นตกขาวที่ผิดปกติ ซึ่งหากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ มักเกิดจากเชื้อ 2 อย่างนี้

                 1. การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ตกขาวมักมีสีเทาขุ่น หรือขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นเหมือนคาวปลา ปริมาณตกขาวมาก มักไม่ค่อยมีอาการคัน แต่อาจรู้สึกแสบและระคายเคืองได้

                 2.การติดเชื้อราในช่องคลอด ตกขาวมักเป็นสีขาวขุ่น จับตัวเป็นก้อนลักษณะคล้ายแป้งเปียกหรือนมบูด มักจะมีอาการแสบหรือคันช่องคลอดร่วมด้วย แต่จะไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็นคาว

                หากเคยมีเพศสัมพันธ์ เคยเกิดจากเชื้ออื่นๆ ได้อีก เช่น การติดเชื้อปรสิต ซึ่งตกขาวจะมีกลิ่นเหม็นคาวมาก มักมีสีเขียว หรือมีฟองปน และมีอาการแสบหรือคันในช่องคลอดมาก นอกจากนี้ยังมีเชื้อหนองในแท้ หนองในเทียม เริม รวมถึงมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                หากคุณ Fang Panpitcha ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์และตกขาวไม่มีอาการคันหรือแสบช่องคลอด น่าจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดมากที่สุดค่ะ  โดยอาจเกิดจากการสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สบู่หรือน้ำยาที่มีความรุนแรง หรือเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบ่อยๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสกปรกหรือทำความสะอาดไม่เพียงพอค่ะ นอกจากนี้ในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์จะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 คน หรือมีการเปลี่ยนคู่นอน แต่ไม่จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ เพราะฝ่ายชายจะไม่ได้ติดเชื้อชนิดนี้ไปด้วย ซึ่งหากอาการตกขาวเกิดจากสาเหตุนี้ การรักษาคือการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ เช่น เมโทรนิดาโซล (metronidazole) คลินดามัยซิน (clindamycin) เป็นต้น

    Fang Panpitcha  Fang Panpitcha
    สมาชิก
    คงติดเชื้อแบคทีเรีย เพราะไม่มีอาการคัน ขอบคุณสำหรับคำตอบและคำแนะนำค่ะ