-
เป็นเชื้อราในช่องคลอด สอดยาแล้วมีเลือดปน หลังจากนั้นมีตกขาวมีเลือดปน เกิดจากอะไร
-
Dec 27, 2021 at 10:05 AM
สอบถามค่ะ เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นเชื้อราในช่องคลอด 1 สัปดา และได้ซื้อยามาสอด+กิน ซึ่งยาละลายออกมาเป็นสีขาวมีเลือดปน แต่ที่เคยสอดไม่มีเลือดปน แต่ครั้งนี้มี และได้หายเชื้อรา แต่กลายเป็นตกขาวปกติ แต่ มีเลือดปนออกมา บางทีก็เป็นสีน้ำตาลค่อยข้างดำ ไม่คัน แต่รู้สึกว่าปากช่องคลอดมีอาการบวมนิดๆเจ็บๆ ซึ่ง 1. สามารถรักษาด้วยทีไหนได้คะถ้าไม่สะดวกไปพบแพทย์ 2. เกิดจากสาเหตุอะไร 3. จะเป็นอะไรร้ายแรงไหม 4. ก่อให้เกิดโรอะไร และคาดว่ากำลังเป็นอะไรDec 27, 2021 at 10:17 AM
สวัสดีค่ะ คุณ Bpani,
การมีตกขาวมีเลือดปนออกมา อาจเกิดจาก
- การติดเชื้อต่างๆ ในช่องคลอด เช่น หนองใน เชื้อปรสิต รวมถึงเชื้อรา ซึ่งหากช่องคลอดมีการอักเสบ บวม ก็อาจทำให้หลอดเลือดฝอยมีการแตกเมื่อมีการสัมผัสโดนหรือเสียดสี จึงมีเลือดปนออกมาได้
- มีมดลูกอักเสบ มักมีปวดท้องน้อยร่วมด้วย
- มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก
- มีโรคต่างๆ ของมดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริม
- มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น
ในเบื้องต้น หากมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อน หากตรวจไม่พบ หรือไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ และไม่ได้มีการใช้ยาฮอร์โมนอะไร ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัยที่แน่นอน จะได้รักษาให้ตรงกับโรคค่ะ
-
ถามแพทย์
-
เป็นเชื้อราในช่องคลอด สอดยาแล้วมีเลือดปน หลังจากนั้นมีตกขาวมีเลือดปน เกิดจากอะไร