ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุมกำเนิดมาประมาณ 1 เดือนแล้วประจำเดือนมามากผิดปกติ เวลามีเพศสัมพันธ์แล้วมีเลือดออก 1-2 วันหลังจากนั้นก็มีเลือดออก

  •  Pan Wannaphon
    สมาชิก
    ฉีดยาคุมมาประมาณ1เดือนแล้วประจำเดือนมามากผิดปกติ แล้วหลังจากประจำเดือนหยุดไป เวลามีเพศสัมพันแล้วเลือดออก เกี่ยวไหมที่มีเพศสัมพันบ่อยเกินไป แต่พอหยุดมีสัก1-2วัน เลือดก็ไหลออกมาแต่ไม่มาก สีแดงสด จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกไหมค่ะหมอ

    สวัสดีค่ะ คุณ Pan Wannaphon,

                   ผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมกำเนิดชนิดที่เป็นฮอร์โมนตัวเดียวที่อาจพบได้ ได้แก่ ประจำเดือนมามากกว่าปกติ ซึ่งมักพบในช่วงแรกของการฉีดยาคุมกำเนิด มีเลือดออกกะปริบกะปรอย หากฉีดต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ประจำเดือนมักขาดหายไป นอกจากนี้อาจมีมึนศรีษะ เวียนศีรษะ น้ำหนักตัวเพิ่ม อารมณ์เปลี่ยนแปลง ความหนาแน่นกระดูกลดลง แต่พบเป็นเพียงชั่วคราว เมื่อหยุดฉีดยาคุม ความหนาแน่นขแงกระดูกจะกลับมาเป็นปกกติได้

                   ดังนั้นอาการเลือดประจำเดือนมามาก เลือดออกกะปริบกะปรอยของคุณ Pan Wannaphon อาจเป็นผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมได้ค่ะ หรืออาจมีสาเหตุจากโรคอื่นๆ ที่เป็นอยู่ก็ได้ ได้แก่  

                 - มีการอักเสบติดเชื้อที่ปากมดลูก หรือช่องคลอดซึ่งมักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย

                 - มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย บางคนอาจมีไข้ และตกขาวผิดปกติ

                  - มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก มีเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่บริเวณช่องคลอดและปากมดลูก หรือที่มดลูก

                   - เป็นเนื้องอกของมดลูก

                  - มะเร็งปากมดลูก

                  ดังนั้นหากคุณ Pan Wannaphon ยังคงมีประจำเดือนมามากในรอบต่อไป หรือมากะปริบกะปรอยเป็นๆ หายๆ ไปอีก 1 เดือน แนะนำให้ไปพบสูติ-นรีแพทย์ เพื่อหาสาเหตุนะคะ