ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 3 เดือน ครั้งที่สอง แล้วมีเลือดออกกระปริบกระปรอย จะมีโอกาสท้องไหม

  • อยากสอบถามค่ะพอดีฉีดยาคุมแบบ3เดือนฉีดครั้งแรกตอนลูกได้1เดือนคือก่อนฉีดยาคุมนั้นได้มีอะไรกับแฟนก่อนแล้วค่อยได้ฉีดแต่พอฉีดแล้วก้อมีอะไรกับแฟนอีกแต่หลั่งในปกติยาคุมจะออกริทหลังได้7วันแต่พอมีอะไรกับแฟนในวันนั้นประจำเดือนก็มาพอฉีดยุมเข็มแรกครบ3เดือนแล้วก็ฉีดเข็มที่2แต่มีเลือดออกกระปริบกระปอยไม่มากแล้วก้อมาเมื่อวันก่อนเลือดออกอีกแต่ไม่มากหายไปอีก1วันก็กลับมามีเลือดออกอีกแบบนี้เกิดจากที่ฉีดยาคุมรึเปล่าค่ะแล้วมีสิทธิที่จะท้องได้มั้ยค่ะกังวลมากค่ะ😑

    สวัสดีครับ คุณ เจ๊แคท.ท อย่าง'เด็ด.

    สำหรับประเด็นแรก หลังจากฉีดยาคุมกำเนิดเข็มแรกแล้ว มีเพศสัมพันธ์ แต่ประจำเดือนยังมาปกติได้หลังจากนั้น ก็ไม่น่าจะมีการตั้งครรภ์นะครับ  และเมื่อฉีดยาเข็มที่สองแล้ว ก็สามารถมีประจำเดือนที่มากระปิดกระปอย หรือ มานานกว่าปกติได้ครับ เพราะยาฉีดคุมกำเนิด เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับแต่ละคน  นอกจากนี้ บางรายอาจพบผลข้างเคียงอื่น เช่น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หรือ คลื่นไส้ ก็เป็นไปได้ครับ

    นอกจากนี้ ขอแนะนำว่าควรรอ 7 วัน เพื่อให้ยาฉีดคุมกำเนิดออกฤทธิ์ (กรณีไม่ตรงกับรอบประจำเดือน) และควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมระหว่างนั้น เช่น การใช้ถุงยางอนามัย เพื่อความปลอดภัยครับ

    กล่าวโดยสรุป อาการประจำเดือนมากระปิดกระปอยนั้นอาจเป็นผลจากยาครับ แต่หากประจำเดือนยังมานานเกิน 7 วัน ก็ควรพบแพทย์นรีเวชเพิ่มเติม เพื่อตรวจหาว่ามีความผิดปกติอื่นในมดลูกหรือไม่ (เช่น เนื้องอกมดลูก โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ติ่งเนื้อปากมดลูก เป็นต้น) ครับ

    สวัสดีครับ คุณ เจ๊แคท.ท อย่าง'เด็ด.

    สำหรับประเด็นแรก หลังจากฉีดยาคุมกำเนิดเข็มแรกแล้ว มีเพศสัมพันธ์ แต่ประจำเดือนยังมาปกติได้หลังจากนั้น ก็ไม่น่าจะมีการตั้งครรภ์นะครับ  และเมื่อฉีดยาเข็มที่สองแล้ว ก็สามารถมีประจำเดือนที่มากระปิดกระปอย หรือ มานานกว่าปกติได้ครับ เพราะยาฉีดคุมกำเนิด เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับแต่ละคน  นอกจากนี้ บางรายอาจพบผลข้างเคียงอื่น เช่น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หรือ คลื่นไส้ ก็เป็นไปได้ครับ

    นอกจากนี้ ขอแนะนำว่าควรรอ 7 วัน เพื่อให้ยาฉีดคุมกำเนิดออกฤทธิ์ (กรณีไม่ตรงกับรอบประจำเดือน) และควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมระหว่างนั้น เช่น การใช้ถุงยางอนามัย เพื่อความปลอดภัยครับ

    กล่าวโดยสรุป อาการประจำเดือนมากระปิดกระปอยนั้นอาจเป็นผลจากยาครับ แต่หากประจำเดือนยังมานานเกิน 7 วัน ก็ควรพบแพทย์นรีเวชเพิ่มเติม เพื่อตรวจหาว่ามีความผิดปกติอื่นในมดลูกหรือไม่ (เช่น เนื้องอกมดลูก โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ติ่งเนื้อปากมดลูก เป็นต้น) ครับ