ถามแพทย์

  • หลังจากมีเพศสัมพันธ์ 2-3 วัน มีแผลตรงปากช่องคลอด มีอาการปวดแสบ เป็นอะไร รักษาอย่างไร

  •  Angwara Diloksumpan
    สมาชิก
    คือหลังจากที่หนูมีอะไรกับแฟนเสร็จประมาณ2-3วัน หนูเป็นแผลเหมือนตุ่มแดงๆตรงปากช่องคลอดอ้ะค้ะ เวลาปัสสะวะหรือน้ำโดนมีอาการแสบมาก บางทีขนาดนอนเฉยๆก็ปวดแสบขึ้นมา หนูควรรักษายังไงค้ะแล้วเป็นอะไรค้ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Angwara Diloksumpan,

                    การมีแผลตรงบริเวณปากช่องคลอด และมีอาการปวดแสบ อาจเกิดจาก

                    1. เริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ติดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus โดยอาการจะปรากฏหลังจากติดเชื้อตั้งแต่ 2-10 วัน เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสบริเวณอวัยวะเพศ อาจมี 1 ตุ่มหรือหลายตุ่ม มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึมได้ หากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ บางรายอาจมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลียร่วมด้วย และอาจมีปัสสาวะแสบขัดได้

                   2. แผลริมอ่อน หรือซิฟิลิสเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นกัน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาการเริ่มจากเป็นตุ่มนูนและกลายเป็นแผล อาจมีหลายแผลหรือมีเพียงแผลเดียวก็ได้ ต่อมาแผลเล็ก ๆ เหล่านี้จะขยายรวมกันเป็นแผลใหญ่ ลักษณะแบบแผลเปื่อย มีเนื้อเยื่อเละ ๆ ที่ก้นแผล มักจะมีเลือดซึม และรู้สึกเจ็บ นอกจากนี้จะมีตกขาวปริมาณมากและมีกลิ่นเหม็น ต่อมาจะพบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวมโตและเจ็บ บางรายอาจมีไข้ เบื่ออาหาร และปวดเมื่อยร่างกายร่วมด้วย 

                   แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะของแผลที่อวัยวะเพศค่ะ ว่าเกิดจากโรคใด จะได้รับการรักษาที่ตรงกับโรคค่ะ โดยหากเป็นโรคเริม การทานยาต้านไวรัสก็จะทำให้โรคหายเร็วขึ้น และมีโอกาสกลับเป็นซ้ำน้อยกว่า ส่วนโรคแผลริมอ่อนนั้น หากได้ยาปฏิชีวนะรักษา ก็จะทำให้หายขาดได้ค่ะ นอกจากนี้แพทย์จะได้ประเมินการติดเชื้ออื่นๆ ที่มักพบร่วมกันได้ค่ะ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เป็นต้น