ถามแพทย์

  • มีก้อนที่ขาหนีบด้านขวา ให้ยาทาน แต่ทานไม่ครบ ก้อนหายไปแล้วกลับมาเป็นอีก

  •  มาลี แสน
    สมาชิก
    ผมมีก้อนตรงขาหนีบด้านขวา. เคยเป็นมาแล้วหมอให้ยามาทานแล้วมันก็ลดลง(จำชื่อยาไม่ได้แต่ต้องกินหลังอาหารห้ามลืม) พอผมทานได้สักพักผมลืมตอน4เม็ดสุดท้าย แต่หมอเขาก็นัดมาอาทิตย์ถัดไป ผมไม่ได้ไปแต่ก้อนที่ขาหนีบผมก็หายไปสักพักครับ. แต่ตอนนี้มันกลับมาอีกแล้วเครียดมากครับ ข้างบนผิวหนังตรงก้อนมีอาการคันด้วยครับผมกลัวว่าก้อนตรงขาหนีบมันจะดื้อยาอะครับ ไปรพ.ก็นานมากช่วยให้คำแนะนำทีครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ มาลี แสน,

                      ก้อนที่ขาหนีบด้านขวา อาจเป็น

                       1. ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบโต ซึ่งมักเกิดจาก

                               - การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ฝีมะม่วง เป็นต้น 

                               - การมีแผลอักเสบติดเชื้อบริเวณขาเป็น ๆ หายๆ หรือมีแผลเรื้อรังอยู่

                               - ส่วนสาเหตุที่พบน้อย เช่น การติดเชื้อวัณโรค มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งของเซลล์ที่ผลิตเม็ดสี (malignant melanoma) เป็นต้น

                         2. ก้อนเนื้องอกของเนื่อเยื่อบริเวณนั้น เช่น ก้อนเนื้องอกไขมัน  ก้อนซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง  เป็นต้น 

                         3. ไส้เลื่อนขาหนีบ (inguinal hernia) มักทำให้มีอาการปวดหน่วงๆ บริเวณท้องน้อยและขาหนีบ และอาจทำให้คลำได้ก้อนในขณะที่ยกของหนัก ไอหรือจามแรงๆ และอาจหากไส้เลื่อนเคลื่อนไปที่ถุงอัณฑะก็จะทำให้ลำได้ก้อนที่อัณฑะด้วย

                         หากได้ทานยาจนครบแล้ว แม้จะขาด 4 เม็ดสุดท้ายก็ตาม หากก้อนยังคงกลับมาคลำได้อีก ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมต่อไปค่ะ ทั้งนี้ หากไม่ได้มีอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่มีแผลอักเสบบริเวณขา ไม่มีไข้ ก็ไม่น่าเกิดจากต่อมน้ำเหลืองโต โดยอาจเป็นก้อนเนื้อหรือซีสต์หรือไส้เลื่อนก็ได้ค่ะ