อายุ 46 ปี กินอะไรก็ขมและเค็ม ทำให้กินได้น้อย เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ จั่น,

                   อาการขมและเค็มในปาก อาจเกิดจาก 

                  1. โรคกรดไหลย้อน รสขมในน้ำลายอาจเกิดจากน้ำดีไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหาร บางรายอาจเป็นรสเปรี้ยวจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่เป็นกรด แต่ไม่น่าทำให้มีรสเค็มเกิดขึ้น นอกจากนี้ก็มักมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น ปวดแสบร้อนกลางอก เจ็บหน้าอก จุกเสียดแน่น เรอบ่อย คลื่นไส้หลังทานอาหาร กลืนอาหารได้ลำบาก ระคายเคืองคอ เจ็บคอ 

                  2. เป็นผลจากการทานยาบางชนิด เช่น metronidazole, clarithromycin, captopril และยาเคมีบำบัดบางชนิด เป็นต้น หรือการใช้ยาหยอดตา หยอดจมูก เนื่องท่อน้ำตาจะเชื่อมต่อไปยังลงโพรงจมูก การใช้ยาหยอดตา ยาบางส่วนอาจไหลลงโพรงจมูกและลงคอต่อได้ ทำให้มีรสขม

                   3. ติดเชื้อเจ็บป่วยอยู่ เช่น ไข้หวัด ไซนัสอักเสบ โควิด 19 หรืออาจเกิดจากเคยติดเชื้อโควิด 19 เมื่อหายแล้ว อาจมีอาการของ long covid ตามมา

                   4. พบในหญิงตั้งครรภ์

                   5. เข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ในร่างกายลดระดับลง ทำให้เกิดอาการปากแห้ง แสบร้อนในปาก และส่งผลต่อต่อมรับรส ทำให้เกิดอาการขมปาก ขมคอ

                    6. มีปริมาณของน้ำลายที่น้อยลงจากสาเหตุต่างๆ เช่น ดื่มน้ำน้อย ทานยาบางอย่าง เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาลดความดันโลหิตบางชนิด ยาขับปัสสาวะ ยากันชัก ยารักษาอาการทางจิต เป็นต้น มีโรคของต่อมน้ำลาย เคยฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ การสูบบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งเมื่อน้ำลายน้อยลง ก็จะมีผลต่อรสชาติภายในปากด้วย เช่น รู้สึกขมปาก ขมคอ หรือรับรสเค็มผิดปกติไป

                   7. มีฟันผุ เหงือกอกัเสบ แผลในปากอยู่

                    8. อาจเป็นอาการของโรคทางสมองบางอย่าง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ 

                    หากก่อนหน้านี้ไม่นาน เคยติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน อาจเป็นไปได้ว่าเป็นอาการของ long covid ค่ะ  แต่หากไม่เคยติดเชื้อมาก่อน และยังไม่มีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่นๆ ก็ให้สังเกตอาการไปก่อน อาจเป็นอาการของวัยก่อนหมดประจำเดือนก็ได้ แต่หากอาการเป็นมาก จนทำให้กินได้น้อย มีน้ำหนักลดลง  หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ทางร่างกายร่วมด้วย ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ 

                   ในเบื้องต้น ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ งดน้ำหวาน เครื่องดื่มต่างๆ และไม่ดื่มแอลกอฮอล์ งดอมลูกอม ยาอมต่างๆ ทานอาหารที่รสไม่จัด ดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาด โดยแปรงฟันหลังอาหารทุกครั้ง ใช้ยาสีฟันที่ไม่แสบปาก ไม่ใช้ยาสีฟันที่ฟอกฟันขาว เพราะมักมีสารเคมีรุนแรง งดการใช้น้ำยาบ้วนปากไปก่อน ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง