หลังจากหยุดทานยาเลื่อนประจำเดือนไป 3 วัน ประจำเดือนมาแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่มา เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ Chanatthacha Gun'n,

                   หากหลังจากที่หยุดทานยาเลื่อนประจำเดือน ได้มีประจำเดือนมาแล้ว โดยมานาน 3 วัน  ก็ถือว่าปกติดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ และหากหลังจากที่มีประจำเดือนมาแล้ว ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีก ก็จะไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นดังนั้น การที่ประจำเดือนไม่มานานเกือบ 3 เดือน อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                    1. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีกลุ่มอาการที่มีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิวเยอะ มีขนดก

                    2. มีน้ำหนักขึ้นมาก หรือมีโรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ 

                     3. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ 

                     4. มีพังผืดเกิดขึ้นในโพรงมดลูก จากการเคยมีมดลูกอักเสบ หรือเคยขูดมดลูก

                    5. มีเนื้องอกในต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหัว มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                    หากประจำเดือนยังคงไม่มา แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ หากไม่ได้มีโรคอะไร ก็น่าจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ผิดปกติ ซึ่งการรักษาคือการทารยาปรับฮอร์โมนให้ประจำเดือนมาเป็นปกติค่ะ