ยาเลื่อนประจำเดือน วิธีใช้ยาอย่างปลอดภัยและผลข้างเคียงที่ควรรู้

บางสถานการณ์ในชีวิตประจำวันอาจทำให้สาว ๆ หลายคนต้องพึ่งพายาเลื่อนประจำเดือน เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ลดความกังวล และไม่ต้องพบเจอกับความไม่สบายตัว แล้วยาเลื่อนประจำเดือนมีความปลอดภัยแค่ไหนและมีผลกระทบใด ๆ ต่อร่างกายหรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความนี้

ก่อนจะกล่าวถึงการใช้ยาอย่างถูกวิธีและผลข้างเคียงของยา เราควรรู้ก่อนว่ายาเลื่อนประจำเดือนอย่างยานอร์อิทิสเตอโรน (Norethisterone) นั้นเป็นฮอร์โมนโปรเจสโตเจนสังเคราะห์ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ร่างกายผลิตออกมาตามธรรมชาติอย่างการควบคุมการตกไข่และการมีประจำเดือน โดยตัวยานี้จะไปช่วยปรับปริมาณฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนให้คงที่ในระหว่างการมีประจำเดือน ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนตามปกตินั่นเอง 

ยาเลื่อนประจำเดือน วิธีใช้ยาอย่างปลอดภัยและผลข้างเคียงที่ควรรู้

แนวทางใช้ยาเลื่อนประจำเดือนอย่างปลอดภัย 

โดยทั่วไปยาเลื่อนประจำเดือนมักปลอดภัยต่อร่างกายหากใช้เป็นบางครั้งคราว แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงข้อควรระวังระวัง คำเตือน หรือคำแนะนำต่าง ๆ ก่อนการรับประทานยาเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย เช่น 

  1. ประวัติทางการแพทย์ที่ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับประทานยาเลื่อนประจำเดือน เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคซึมเศร้า ไมเกรน โรคเบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง เนื้องอกมดลูก โรคลมชัก โรคไต หอบหืด หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ เป็นต้น   
  2. ยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่กำลังรับประทานอยู่ เพราะอาจทำปฏิกิริยากับยาเลื่อนประจำเดือนจนทำให้มีประสิทธิภาพลดลง เช่น ยารักษาการติดเชื้ออย่างยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อรา ยารักษาวัณโรค ยาต้านไวรัสเอชไอวี ยากันชัก เป็นต้น
  3. ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเลื่อนประจำเดือนเพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น สตรีมีครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ ผู้ที่กำลังให้นมบุตรบางราย ผู้ที่มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ รวมถึงผู้ป่วยโรคตับ เนื้องอกในตับ มะเร็งเต้านม เคยเกิดลิ่มเลือดในสมอง ดวงตา ปอด หรือขา 
  4. การใช้ยาเลื่อนประจำเดือนในเด็กควรอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์เท่านั้น
  5. ยาเลื่อนประจำเดือนนั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดหรือป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการใช้ยาจึงอาจก่อให้เกิดการตั้งครรภ์หรือการติดโรค ดังนั้นจึงควรคุมกำเนิดและลดความเสี่ยงด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติมอย่างการสวมถุงยางอนามัย
  6. การใช้ยาเลื่อนประจำเดือนโดยทั่วไปจะให้รับประทานในปริมาณ 5 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน ในช่วง 3-4 วันก่อนมีประจำเดือน ซึ่งหลังจากหยุดใช้ยาไปแล้วประมาณ 2-3 วัน เลือดประจำเดือนจะกลับมาตามปกติ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการใช้ยาเลื่อนประจำเดือนให้ปลอดภัยคือ อ่านฉลากยาให้เข้าใจและรับประทานยาตามที่ฉลากยาระบุหรือตามที่แพทย์และเภสัชกรแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยไม่ควรปรับเปลี่ยนปริมาณยา ระยะเวลาในการรับประทานยาด้วยตนเอง เพื่อลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาเลื่อนประจำเดือน

แม้ยานอร์อิทิสเตอโรนจะปลอดภัยและให้ผลที่ดีกับสตรีหลาย ๆ คน แต่ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เลือดออกทางช่องคลอดอย่างผิดปกติ ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก คัดตึงเต้านม ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง ซึมเศร้า มีปัญหาในการนอนหลับ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น คันบริเวณอวัยวะเพศหรือมีตกขาว 

ยิ่งไปกว่านั้นยังอาจเกิดผลข้างเคียงหรือความผิดปกติอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมาอีกด้วย ผู้ใช้ยาเลื่อนประจำเดือนจึงควรปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้การเลื่อนประจำในแต่ละครั้งปลอดภัยต่อร่างกาย