ไอไม่หายมาหลายสัปดาห์ เป็นอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ Netupsorn,

                   อาการไอที่เป็นมาหลายสัปดาห์ อาจเกิดจาก

                   1. กรดไหลย้อน อาจทำให้เกิดอาการไอได้จากน้ำย่อยที่ไหลย้อนขึ้นมาระคายเคืองบริเวณลำคอและอาจไหลลงสู่หลอดลม จึงกระตุ้นให้เกิดการไอ และมักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แสบร้อนกลางอก จุกแน่นลิ้นปี่ เรอบ่อย รู้สึกเปรี้ยวหรือขมที่ลำคอ ระคายคอ เจ็บคอ คลื่นไส้ เป็นต้น

                   2. โรคหอบหืด อาการมักจะกำเริบขึ้นเมื่อโดนกระตุ้นจากสิ่งที่แพ้ต่างๆ อุณหภูมิที่เย็น การออกกกำลังกาย หรือความเครียด บางรายอาจมีเฉพาะอาการไอได้ แต่ส่วนใหญ่มักมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น หายใจลำบาก หายใจขัด แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงดังวี๊ดๆ หอบเหนื่อย เป็นต้น

                    3. หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน โดยมักมีอาการของไข้หวัดนำมาก่อน เช่น ไข้ จาม คัดจมูก มีน้ำมูก ไอ มีเสมหะ เจ็บคอ และต่อเนื่องด้วยอาการไอมาก ไอบ่อย ซึ่งมักมีเสมหะร่วมด้วย อาจมีหอบเหนื่อย หายใจลำบากได้ อาการไอมักนานเป็นกว่า 1 สัปดาห์

                   4. ปอดบวม หรือปอดอักเสบจากการติดเชื้อ อาจมีอาการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนต้นมาก่อน หรือเชื้ออาจเข้าสู่ปอดโดยตรงเลยก็ได้ เกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา อาการมักจะมีไข้สูง ไอแห้งๆ ในระยะเริ่มแรก ต่อมาจะมีเสมหะมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                   5. วัณโรคปอด อาการคือไอ ไอมีเสมหะ ไอปนเลือด เจ็บหน้าอกขณะหายใจหรือไอ อ่อนเพลีย มีไข้ หนาวสั่น เหงื่อออกในเวลากลางคืน น้ำหนักลดอย่างมีนัยสำคัญ เบื่ออาหาร

                     หากอาการไอยังคงเป็นอยู่ แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ ในเบื้องต้น ก็ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ไม่ดื่มน้ำเย็นจัด ไม่ทานน้ำแข็ง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่อากาศเย็นมาก ที่ที่มีฝุ่นละออง หรือใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ลดการทานอาหารที่อาจกระตุ้นการไอ เช่น ขนมกรุบกรอบต่างๆ อาหารทอดต่างๆ เป็นต้น