ไอเรื้อรัง

คือมีอาการท้องเสีย เป็นผื่นคัน และไอ มาเกือบ 2 อาทิตย์ พอเลิกท้องเสียอาการไอก็ยังอยู่จนกลายเป็นไอเรื้อรังเกือบ 2 อาทิตย์ จากนั้นก็มีเสมหะเหนียว สีเหลือง แล้วตื่นนอนตอนเช้าขี้ตาเยอะมา ตาแฉะ บางครั้งก็ปวดหลังร่วมด้วยค่ะ แต่ไม่มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ น้ำหนักลด อยากรู้ว่าเสี่ยงเป็นวัณโรคมั้ยคะ เพราะพ่อและตาเป็นวัณโรค

สวัสดีค่ะ คุณ N

     อาการไอที่เกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่ายังไม่ใช่อาการไอเรื้อรังนะคะ โดยปกติเราจะถืออาการไอที่นานเกิน 8 สัปดาห์ขึ้นไป จะถือว่าเป็นอาการไอเรื้อรัง ซึ่งอาจจะมีสาเหตุได้จาก

• โรควัณโรคปอด
• โรคมะเร็งปอด
• โรคหอบหืด
• โรคภูมิแพ้ น้ำมูกไหลลงคอ
• โรคหลอดลอักเสบ
• โรคถุงลมโป่งพอง
• โรคกรดไหลย้อน
• การกินยาบางชนิด   

ซึ่งอาการไอของคุณที่มีอาการร่วมคือมีอาการไอ มีเสมหะ มีขี้ตาแฉะ เข้าได้การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนค่ะ ซึ่งอาจหายได้เองเนื่องจากเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากไวรัส หรือหากเกิดจากแบคทีเรีย ก็อาจจะต้องได้รับยาปฏิชีวะนะเพิ่มเติม ส่วนการรักษาอื่นๆ ไม่ต่างกันค่ะเช่น การให้ยารับประทานเพื่อบรรเทาอาการไอ ยาขับเสมหะ แต่หากมีอาการเหนื่อยหอบ อาจจะต้องไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจร่างกายละเอียดและเอ๊กซเรย์ปอดค่ะ 

สำหรับความกังวลที่มีความเสี่ยงต่อวัณโรคปอด อาจมีการตรวจเสมหะ เพื่อส่งตรวจเชื้อเป็นเวลา สามวัน ร่วมกับการเอ๊กซเรย์ปอดค่ะ