มีตุ่มแดงๆเหมือนยุงกัดขึ้นที่แขน วันที่สองก็เริ่มลามเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ควรทำอย่างไร

คุณ Faii

ตุ่มแดงผิวหนัง อาจเกิดได้หลายสาเหตุครับ

1.จากโรคแพ้สารเคมี ที่มาสัมผัส (Contact dermatitis)  อาจเกิดจากเครื่องสำอางค์สบู่ เสื้อผ้า น้ำยาผงซักฟอก ยาย้อมสีผ้า  น้ำหอม ความเครียดก็ทำให้เกิดตุ่มแพ้ได้ ขนสัตว์เลี้ยง  ควรสังเกตว่าเคยไปสัมผัสสารเหล่านี้หรือไม่มาก่อนใกล้นี้หรือไม่  การรักษาควรใช้ครีมพวกแก้แพ้ เช่น Steroid ยา พวก antihistamine  ถ้าคันมากอาจใช้ยา คาลาไมน์ ทา ห้ามเกาแคะ เพราะจะทำให้เป็นแผลเปิดทำให้เชื่้อโรคแบคทีเรียเข้าไปได้เกิดเป็นฝีหนอง สุดท้ายเมื่อหายจะเป็นแผลเป็นดำๆ ดูน่าเกลียด

2.โรคขนคุด ทำให้มีตุ่มแดงได้ เกิดจากขนไม่งอกออกมาพ้นผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบ

3. รูขุมขนอักเสบ  มีเชื้อโรคเข้าไปในกระเปาะเส้นขน รากขน ทำให้อักเสบ คล้ายกับสิว  ตลอดจนต่อมเหงื่อ อักเสบ  มักเป็นบริเวณที่มีเหงื่อมาก ในที่อากาศร้อนจะเป็นมากขึ้น ขยายตัวได้เร็ว หายไปได้เองเมื่อ มีอาการเย็น จึงมักพบได้ในหน้าร้อน 

4.โดนแมลง สัตว์มีพิษกัดต่อย ทำให้มีตุ่มเริ่มแรกก่อน ต่อไปก็จะลามไปด้านข้าง มักมีอาการคันหรือ แสบร้อน  การรักษาควรรักษาเหมือนพวกแพ้ผิวหนัง  

5.ลมพิษ  เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือยา บางอย่างเข้าไป โดยเฉพะายาต้านจุลชีพ  ยาคุมกำเนิด   บางคนอาจมีการขยายจากตุ่ม เป็นนูน เป็นจ้ำๆ ใหญ่ ทั่วๆไป หรือเฉพาะที่ได้ มีอาการคันมาก

6.โรคผิวหนัง พวกสะเก็ดเงินระยะแรก หรือ โรคภูมิแพ้ผื่นคัน (Eczema) ระยะแรกจะมีอาการเป็นตุ่มก่อน แล้วต่อมาจะหนาตัว มักพบบริเวณผิวหนังด้านนอก ยิ่งเกาจะยิ่งคันมาก

7.ตุ่มแดง จากพวกเชื้อไวรัส อีสุกอีใส งูสวัด  เริม ต้องใช้ยาต้านจุลชีพไวรัส พักผ่อนมากๆ ถ้าแตกเป็นน้ำใสต้องระวังเชื้อแบคทีเรียเข้าแทรกซ้อน เป็นตุ่มหนอง

ถ้าทายาและกินยาแก้แพ้แล้วไม่ดีขึ้นแนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยแยกโรคและการรักษาได้ตรง กับโรคครับ

กรุณาอ่านเรื่อง ผื่นแดง  ได้ที่นี่