การตรวจปัสสาวะ จะเจอพิษสุนัขบ้าไหม อาการเจ็บคอ เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Nicasio,

                   การตรวจหาโรคพิษสุนัขบ้าในคนที่ยังไม่เสียชีวิตนั้น จะตรวจได้จาก

                  1.น้ำลาย เก็บโดยวิธีใช้ท่อดูดจากบริเวณต่อมน้ำลาย หรือเก็บจากน้ำลายที่ไหลออกมา ใส่ภาชนะปราศจากเชื้อประมาณ 5-10 มล.

                  2 ปัสสาวะ : เก็บใส่ในภาชนะปราศจากเชื้อ ประมาณ 20 มล. 

                  3. น้ำไขสันหลัง : เก็บน้ำไขสันหลังประมาณ 3-5 มล. ใส่ภาชนะปราศจากเชื้อ

                  ทั้งนี้เชื้อไวรัสจะถูกพบได้ในสารคัดหลั่ง แต่ไม่ตลอดเวลา ดังนั้นแพทย์จะเก็บตัวอย่างส่งตรวจมากกว่าหนึ่งชนิด และส่งตรวจทุกวัน

                 สำหรับระยะฟักตัวของโรคพิษสุนัขบ้าในคนนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 4 เดือนค่ะ โดยอาการของโรคพิษสุนัขบ้าในคนนั้นแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ 

                - ระยะแรก จะมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เสียวบริเวณแผลที่ถูกกัด

                - ระยะที่ 2 (หรือระยะตื่นเต้นในสัตว์) จะมีน้ำลายมาก เนื่องจากการเจ็บปวดกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืน ทำให้ไม่กล้าดื่มน้ำ ไม่กล้ากลืนน้ำลาย แม้ว่าจะหิวน้ำ มีเหงื่อออกมาก กระวนกระวาย สะดุ้ง ตกใจง่าย เมื่อมีสิ่งเร้า เช่น ลมพัด เสียงดัง คลุ้มคลั่งสลับกับสติดี 

                - ระยะสุดท้ายหรือระยะอัมพาต จะไม่รู้สึกตัว หมดสติ อาจมีชัก ส่วนใหญ่เสียชีวิตไม่เกิน 7 วันหลังจากแสดงอาการ

                ดังนั้นอาการเจ็บคอที่เป็นอยู่ จึงไม่น่าใช่อาการของโรคพิษสุนัขบ้า อาจกำลังตะเป็นไข้หวัด คออักเสบหรือทอนซิลอักเสบก็ได้ค่ะ ดังนั้น แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการโดนฝน โดนลม หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ