ถามแพทย์

  • ช่วง 10 วันแรกทานยาคุม 4 ทุ่ม ต่อมาเปลี่ยนเป็น 3 ทุ่มครึ่ง แล้วมีเลือดสีน้ำตาลออกมาก อันตรายไหม

  •  unknown
    สมาชิก
    สอบถามคุณหมอค่ะ ตอนนี้ทานยาคุมกำเนิดแบบ28เม็ด(เริ่มทานแผงแรก) ทานมาได้17วันแล้วค่ะ ซึ่ง10วันแรกทานในช่วงเวลา4ทุ่ม และ7วันหลังมีเหตุจำเป็นทำให้ต้องทานช่วงเวลา3ทุ่มครึ่ง ซึ่งตอนนี้พบปัญหาเลือดออกเป็นสีน้ำตาลเข้มช็อคโกแลตปริมาณมากจนต้องใช้ผ้าอนามัย(แต่ไม่มากเท่าประจำเดือน) อาการแบบนี้จะเป็นอันตรายอะไรไหมคะ

     สวัสดีค่ะ คุณ Unknown,

                        หากในช่วง 10 วันแรก ได้ทานยาคุมกำเนิดในเวลา 4 ทุ่ม และ 7 วันต่อมาทานเวลา 3 ทุ่มครึ่ง ซึ่งต่างกันเพียงครึ่งชั่วโมงนั้น หากเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการลดลงของประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดแต่อย่างใดค่ะ

                         สำหรับเลือดสีน้ำตาลเข้มที่ออกมา น่าจะเป็นอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่สามารถพบได้จากการทานยาคุมกำเนิด ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด โดยมักเกิดในยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดในช่วงการทานยา 1-2 แผงแรก หลังจากนั้น อาการจะค่อยๆ หายไป สิ่งสำคัญคือต้องพยายามทานยาให้ตรงเวลา จะช่วยลดการเกิดอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยได้

                        ดังนั้น หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มากเกินไป ไม่มีปวดท้องน้อยรุนแรง ไม่มีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย ก็ให้สังเกตอาการไปก่อนและทานยาคุมต่อไปก่อนค่ะ แต่หากเลือดที่ออกกลับมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นสีแดงสด มีปวดท้องน้อยมาก หรือมีตกขาวที่ผิดปกติ ก็ควรหยุดทานยาคุม และไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจค่ะ