มีเพศสัมพันธ์ทุกวัน ล่าสุดหลังมีเพศสัมพันธ์มีเลือดออก เพิ่งหมดประจำเดือนไป 1 วัน จะท้องไหม

สวัสดีค่ะ คุณ NI New,

                  เลือดที่ไหลออกมาจากช่องคลอด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าว อาจเป็น

                 1. เนื่องจากเพิ่งหมดประจำเดือนไปเพียง 1 วัน จึงอาจเป็นเลือดประจำเดือนที่ค้างอยู่ในมดลูก ซึ่งยังออกมาไม่หมด และการมีเพศสัมพันธ์ไปกระตุ้นให้มีเลือดไหลออกมาได้ 

                 2. มีการฉีกขาดของเยื่อบุภายในช่องคลอด จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือมีการใช้สิ่งของสอดใส่ช่องคลอด ซึ่งโดยปกติเลือดที่ออกจะมีปริมาณไม่มาก ค่อยๆ ซึมออก และจะเป็นอยู่เพียง 1-2 วัน 

                   3. มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก

                   4. มีการติดเชื้อที่ปากมดลูก หรือช่องคลอด แต่มักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย

                   5. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย และอาจมีเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดหรือแสบขณะปัสสาวะ มีไข้ อ่อนเพลีย เป็นต้น 

                    6. มะเร็งปากมดลูก นอกจากมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ มักมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย ตกขาวมีเลือดปน มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ ปวดท้องน้อย เป็นต้น

                    หากเลือดที่ออกมา มีเพียงเล็กน้อยและไม่เกิน 2 วัน ก็อาจเป็นเลือดประจำเดือนที่ยังออดมาไม่หมด หรือเกิดจากการฉีกขาดของเยื่อบุภายในช่องคลอดได้ ซึ่งไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นการบอกว่าจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น แต่หากยังคงมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย มีตกขาวผิดปกติ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ

                    สำหรับการจะตั้งครรภ์หรือไม่นั้น หากถึงกำหนดวันที่ประจำเดือนควรจะมาแล้ว แต่ยังไม่มา ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ 

                    สำหรับอาการปวดท้องน้อยและท้องน้อยโตขึ้น หากตรวจแล้วไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ ก็อาจเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้ หรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ก็ได้ เช่น มีการอักเสบของมดลูก มีเนื้องอกในมดลูก มีซีสต์หรือก้อนเนื้อที่รังไข่ หรือเกิดจากมีท้องอืด ท้องผูก เป็นต้น