ถามแพทย์

  • ทานยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ดตรงเวลา ช่วงหยุดยามีเลือดออกมา 5 วัน และปวดท้องน้อย เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมหรือตั้งครรภ์?

  •  littlenpm
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคือว่าดิฉันทายาคุม21เม็ดแผงแรกครบแล้วกินตรงเวลาตลอดไม่เคยลืม พอช่วงที่หยุดยาก็มีเลือดออกน้อยมากตอนแรกคิดว่าจะเป็นกระจำเดือนแต่ก็ไม่น่าใช่เพราะมันแค่เลอะนิดๆหน่อยๆเป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นเวลา5วันแล้วค่ะมีอาการปวดท้องคล้ายๆท้องอืดร่วมด้วยแต่ว่าเป็นมาสักพักก่อนที่จะมีเลือดไหลออกมาแบบดังกล่าวพอดีอยากทราบว่าอาการแบบนี้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ไหมคะหรือว่าแค่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ littlenpm

    การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด (Oral contraceptive pills) โดยทั่วไปมีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด โดยที่ส่วนใหญ่จะใช้เป็นแบบฮอร์โมนรวม คือตัวเม็ดที่เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน จะมีตัวยาเท่ากันทั้งหมดทุกเม็ดค่ะ

    ดังนั้น การรับประทานแบบ 21 เม็ดจะเป็นฮอร์โมนทั้งหมด เมื่อทานครบเเล้วให้เว้นไปอีก 7 วัน แล้วเริ่มต้นรับประทานแผงต่อไปค่ะ ส่วนมากจะมีเลือดที่คล้ายประจำเดือนออกมาค่ะ เเต่ว่าออกมาในปริมาณที่น้อยกว่าประจำเดือนปกติ เนื่องจากการที่ทานยาคุมไป ฮอร์โมนจากในเม็ดยา จะทำให้ เกิดการยับยั้งการตกไข่ เเละทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวลงค่ะ ดังนั้น พอเยื่อบุที่ปกติจะหลุดออกมาเป็นประจำเดือนบางตัวลง ดังนั้น เลือดที่ออกมาจึงน้อยลงไปด้วยค่ะ เเละอาการปวดประจำเดือน ส่วนมากจึงมักดีขึ้นค่ะ

    ดังนั้น อาการที่มีเลือดออกมาอาจเป็นได้ทั้งเลือดออกจากการรับประทานยาคุมค่ะ ซึ่งสามารถเว้น 7 วัน เเล้วเริ่มแผงถัดไปได้เลย เเต่สาเหตุอื่นๆที่อาจเกิดได้ เช่น ถ้ามีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยเช่นนี้ อาจเกิดได้จากการติดเชื้ออุ้งเชิงกราน หรือ ติดเชื้อในโพรงมดลูกได้ ดังนั้นถ้ายังมีอาการปวดอยู่เเนะนำให้ไปพบสูตินรีเเพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ  

    ทั้งนี้การใช้ยาคุมกำเนิด ถึงเเม้ว่ารับประทานอย่างสม่ำเสมอ ก็ยังสามารถมีโอกาสตั้งครรภ์ (Failure rate) ได้ประมาณ 0.5/1000 ดังนั้น ยังต้องระวังการตั้งครรภ์ด้วยค่ะ แต่ส่วนมากถ้าไม่มีการลืม รับประทานค่อนข้างตรงเวลา เเละยิ่งถ้าใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ถือว่าประสิทธิภาพค่อนข้างดีค่ะ