ถามแพทย์

  • อายุ 15 ปี มีเลือดกำเดาไหลเป็นประจำ บางครั้งเป็นวันละ 2 รอบ เกิดจากสาเหตุอะไร ควรไปพบหมอไหม

  •  Phachara Rattanathongsin
    สมาชิก

    ปัจจุบันลูกสาว อายุ 15 ปี มีเลือดกำเดาไหลเป็นประจำ หลังๆๆอยู่ดีๆก็เลือดออก ล่าสุดอาบน้ำออกมาเสร็จก็มีเลือดกำเดาไหล และเป็นบ่อย บางครั้งเป็นวันละ 2 รอบ คือเช้า-เย็น บางครั้ง 2-3วันเป็นครั้ง ไม่ทราบเกิดจากสาเหตุอะไร และควรจะไปพบหมอเพื่อตรวจไหม ต้องบอกหมอว่าตรวจอะไรค่ะ

    ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ มีข้อควรระวังหรือสังเกตอะไรบ้าง

    สวัสดีค่ะ คุณ Phachara Rattanathongsin,

                      การมีเลือดกำเดาไหล เกิดจากเส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดใหญ่ภายในจมูกแตก  ส่วนใหญ่มักพบในช่วงวัยเด็กอายุ 2-10 ปี และผู้สูงวัยในช่วง 50-80 ปี โดยทั่วไป หากเกิดขึ้นนานครั้งๆ สาเหตุ ได้แก่

                      - การล้วงหรือแคะจมูกที่รุนแรง การจามบ่อย ๆ จามแรง สั่งน้ำมูกแรงเกินไป

                      - สิ่งแปลกปลอมติดค้างอยู่ภายในจมูก

                      - จมูกได้รับการกระแทกแรง 

                       - สภาพอากาศที่หนาวและแห้ง หรืออากาศที่ร้อนจัดก็ได้

                       - การใช้ยาบางชนิดที่มีผลทำให้โพรงจมูกแห้ง เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้คัดจมูก เป็นต้น 

                        แต่หากอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่แล้ว ยังคงมีเลือดกำเดาไหลบ่อยๆ อาจเกิดจาก

                        - การทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำเพื่อรักษาโรคบางอย่าง รวมถึงยาแอสไพริน

                         - เป็นโรคภูมิแพ้ ที่ทำให้มีน้ำมูกและอาการคัดจมูกบ่อยๆ

                         - มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เช่น โรคฮีโมฟิเลีย หรือมีการแข็งตัวของเกร็ดเลือดผิดปกติ เช่น โรควอนวิลลิแบรนด์ (vWD) เป็นต้น

                          - มีเนื้องงอกหรือมะเร็งในโพรงจมูก

                         หากยังคงมีเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ โดยที่ไม่ได้เกิดจากการแคะจมูก หรือเป็นโรคภูมิแพ้ที่มีการสั่งน้ำมูกบ่อยๆ และเป็นมานานแล้ว แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ ซึ่งแพทย์อาจทำการตรวจภายในโพรงจมูก รวมถึงเจาะเลือดเพื่อตรวจหาโรคต่างๆ และประเมินภาวะโลหิตจางร่วมที่อาจพบร่วมด้วย เนื่องจากมีการเสียเลือดบ่อยๆค่ะ