ถามแพทย์

  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ

  • เคยรักษาวัณโรคมาแล้ว ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว

  •  kit555
    สมาชิก

    Mar 10, 2018 at 09:56 AM

    แฟนหนูเขาเคยเป็นวัณโรคตอนอายุ 12 รักษาแล้ว ตอนนี้อายุ 15 พี่สาวเขาเป็นวัณโรคซึ่งอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เขามีโอกาสจะเป็นวัณโรคอีกได้รึป่าวคะ
    kit555  แพทย์หญิงปิติพร เวชอัศดร
    แพทย์

    Mar 10, 2018 at 10:19 AM

    สวัสดีค่ะคุณ kit555

    ปกติการฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคในสมอง ในเด็กค่ะ

    การที่แฟนคุณเคยติดเชื้อวัณโรคมาก่อน แล้วมีประวัติอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อวัณโรค ถ้าคนที่ติดเชื้ออยู่ในระยะติดต่อของโรคก็มีโอกาสที่จะเป็นกลับมาได้อีกค่ะ

    และที่สำคัญนะค่ะ หมอแนะนำว่าควรจะ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย

    ให้หาสาเหตุอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น โรคประจำตัวค่ะ

    อาจจะต้องมีการตรวจเสมหะซ้ำ ถ้าเริ่มมีอาการไอเรื้อรัง หรือ มีไข้ต่ำๆ น้ำหนักลด เหงื่อแตกกลางคืนค่ะ

    อืกอย่างค่ะ ถ้ามีความจำเป็นอาจจะต้องเอกซเรย์ปอกซ้ำค่ะ

    kit555  kit555
    สมาชิก

    Mar 10, 2018 at 01:45 PM

    แล้วหนูควรจะทำยังไงดีคะ เพราะแฟนอยู่บ้านเดียวกับพี่ที่เป็น และหนูก็เจอเขาแทบทุกวัน
    kit555  แพทย์หญิงปิติพร เวชอัศดร
    แพทย์

    Mar 10, 2018 at 01:55 PM

    ต้องแยกห้องก่่อนค่ะ ถ้าเป็นไปได้ต้องสวมหน้ากากอนามัยค่ะ ที่แนะนำเป็น N95 คะ อาจจะต้องไปซื้อที่ร้านขายเวชภัณฑ์ค่ะ 

    kit555  kit555
    สมาชิก

    Mar 10, 2018 at 05:13 PM

    วัณโรคร้ายแรงมารึป่าว ถ้าเป็นเราจะรู้สึกยังไง
    kit555  แพทย์หญิงปิติพร เวชอัศดร
    แพทย์

    Mar 10, 2018 at 05:21 PM

    เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียค่ะ แต่ว่าการติดเชื้อมันติดทางการได้รับเชื้อจากคนสู่คนค่ะ ทางการหายใจค่ะ คือ โรคเป็นการติดเชื้อที่ต้องได้รับการรักษานานค่ะ และการดื้อยาสูงค่ะ การรับประทานยาค่อนข้างยากค่ะ และอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนจากการไอเรื้อรัง เช่น ปอดแตกได้ค่ะ 

    แต่ส่วนใหญ่ถ้ารักษาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดยาก็หายได้ค่ะ 

    โรคนี้มีอุบัติการณ์การเกิดโรคมากขึ้นเนื่องจากผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องมากขึ้นค่ะ ดังนั้นป้องกันการติดเชื้อจะดีที่สุดค่ะ 

     

    kit555  kit555
    สมาชิก

    Mar 10, 2018 at 05:35 PM

    การตรวจว่าเราเป็นวัณโรครึป่าว พยาบาลจะทำอะไรบ้างหละคะ
    kit555  แพทย์หญิงปิติพร เวชอัศดร
    แพทย์

    Mar 10, 2018 at 05:57 PM

    คือ ต้องมีประวัติสัมผัสโรค และมีอาการค่ะ แต่ก็มีการตรวจ screening ได้ค่ะ 

    เช่น การตรวจเสมหะ หาเชื้อ 

    การตรวจเอ๊กซเรย์ปอด 

    จากตรวจ PPD โดยการฉีดเชื้อเข้าใต้ผิวหนัง 48-72 ชั่วโมง แล้วกลับมาอ่านผลค่ะ แต่การตรวจนี้ถ้าได้ผลลบไม่ได้หมายความว่าไม่มีการติดเชื้อนะค่ะ 

    ดังนั้น อาการ ประวัติ สำคัญที่สุดค่ะ


  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ