ถามแพทย์

  • ตรวจพบเป็นท้องลม ได้ทำการขูดมดลูกไป หลังจากนั้นพบท้องนอกมดลูก ได้ตัดปีกมดลูกไป จะท้องปกติได้อีกไหม

  •  nananew
    สมาชิก

    ดิฉันได้ทานยาคุมฉุกเฉินเมื่อเดือน มิถุนายน ไป 2 ครั้ง พอเดือน กรกฎาคม มี พสพ พอเดือน สิงหาคม ดิฉันตรวจเจอการตั้งครรถ์ ระหว่างนั้นได้มีอาการเลือดออกทางช่องคลอดวันที่ 20 สิงหาคม และไปหาหมอสูติวันนั้นทำการตรวจภายในส่องกล้องทางช่องคลอด หมอแจ้งว่า น่าจะแท้งคุกคาม ให้หยุดพัก 1 สัปดาห์ พอวันที่3กันยายน หมอนัดและได้ทำการตรวจภายในโดยการส่องกล้องทางช่องคลอด หมอบอกว่า พบแต่ถุงการตั้งครรถ์ น่าจะท้องลม นัดขูดมดลูกเมื่อวันที่ 8 กันยายน หลังขูดมดลูกได้ 1 สัปดาห์ วันที่16 กันยายน ประมาณตี2 ดิฉันหน้ามืดเป็นลมหมดสติแฟนได้นำตัวส่ง ร.พ. เข้าแผนกฉุกเฉิน หมอสูติแผนกฉุกเฉินได้ทำการตรวจภายในส่องกล้องทางช่องคลอด ตรวจเลือด จนตรวจพบว่าท้องนอกมดลูก ได้ทำการผ่าตัดปีกมดลูกข้างซ้าย1ข้าง อยากถามว่า

    1. ดิฉันอยากรู้ว่าที่พบถุงตั้งครรถ์ในมดลูกคืออะไร (หมอที่ทำการรักษาคนแรก ไม่อธิบายเรื่องทั้งหมดที่วินิฉัยเลยสักครั้ง)

    2. ดิฉันยังมีลูกโดยวิธีธรรมชาติได้ไหมและจะท้องนอกมดลูกอีกไหม 

    3. ดิฉันสามารถปล่อยมีลูกได้เมื่อไหร่หลังผ่าตัดปีกมดลูก

    4. ตั้งแต่ผ่าตัดปีกมดลูกเมื่อวันที่ 16 กันยายน ยังไม่มีประจำเดือน ไม่ทราบว่าประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่

    5. ถ้าดิฉันปล่อยมีน้อง จะต้องทำการฉีดสีดูท่อนำไข่ไหมค่ะ จะอันตรายมากน้อยแค่ไหน

    รบกวนคุณหมอตอบทีค่ะ

     

    สวัสดีค่ะ คุณ nananew,

                        1. หากอายุครรภ์มากกว่า 7 สัปดาห์ไปแล้ว พบแต่ถุงการตั้งครรภ์ แต่ไม่พบตัวอ่อนทารก จะถือว่าเป็นท้องลม หรือท้องหลอก (blighted ovum) ซึ่งหมายความว่าตัวอ่อนทารกไม่ได้ถูกพัฒนาต่อหลังจากที่ถูกปฏิสนธิ โดยอาจฝ่อหายไป หรือแท้งออกมา เหลือเพียงถุงการตัังครรภ์ที่เจริญเติบโตต่อมาได้เท่านั้น

                        2. ผู้ที่เคยท้องนอกมดลูกมาแล้ว อาจมีความเสี่ยงในการท้องนอกมดลูกมากกว่าผู้ที่ไม่เคย อย่างไรก็ตาม โอกาสในการตั้งครรภ์ในมดลูกได้เป็นปกติก็จะยังสามารถเกิดขึ้นได้

                        3. ในกรณีของคุณ nananew ที่เคยขูดมดลูกมาก่อนหน้านั้น โดยปกติควรเว้นระยะการตั้งครรภ์ออกไปอย่างน้อย 3-6 เดือน ดังนั้น แนะนำว่า ในระหว่างนี้ควรใช้การคุมกำเนิดไปก่อนจนกว่าจะถึงเดือน มี.ค. จึงค่อยวางแผนตั้งครรภ์ใหม่ค่ะ

                        4. ในการผ่าตัด ย่อมทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียด ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของต่อมใต้สมอง และส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ตามมา ซึ่งอาจทำให้การตกไข่เกิดล่าช้ากว่าปกติได้ และจะทำให้ประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติได้ ไม่สามารถตอบได้ว่าจะมาเมื่อไหร่

                        5. ในอนาคต เมื่อเริ่มตรวจพบการตั้งครรภ์ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อติดตามประเมินการตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิด ส่วนการฉีดสีดูท่อนำไข่ จะใช้ในกรณีตรวจหาสาเหตุของผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากมากกว่า

    nananew  nananew
    สมาชิก
    ขอบคุณค่ะ แล้วเหลือปีกมดลูกเพียงหนึ่งข้าง ไข่จะตกตามปกติไหมค่ะคุณหมอ