ถามแพทย์

  • มีประจำเดือน 2 ครั้งในหนึ่งเดือนหลังจากหยุดใช้ยาคุม

  •  Nufoung
    สมาชิก
    เดือนที่แล้วหนูเป็นประจำเดือน2ครั้งคะครั้งที่1เป็นวันที่1-5คะ ครั้งที่2 เป็น21-25 พอมาต้นเดือนนี้มีเลือดออกจากช่องคลอดสีน้ำตาลและปวดท้องน้อยมากคะ ก่อนหน้านี้เคยทานยาคุมคะ แต่ทานหมดไป1แผง แผงที่2ไม่หมดเพราะยาคุมหาย แต่แฟนหลั่งในนะช่วงนั้น พอมาต้นเดือนนี้มีอะไรกันกะแฟนล่าสุดมันมีเลือดออกอ่ะคะไม่ได้ไหลเหมือนประจำเดือนนะคะ แล้วกะจะปวดเกร็งบริเวรท้องน้อยเวลาที่ทำยกของหนักๆ แต่หนูเป็นคนชอบกั้นปัสสาวะอ่ะคะไม่รู่ว่าจะเกี่ยวกันไม อาการแบบนี้จะเป็นอันตรายไมคะ หรือเป็นอาการของการตั้งครรภ์หรือเปล่า

    สวัสดีค่ะ คุณ Nufong

    การที่มีเพศสัมพันธ์ ถ้าใช้ยาคุมกำเนิดแล้วมีการหยุดยาไป แสดงว่า มีโอกาสที่ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะลดลง เเละเกิดการตกไช่กลับมาได้ ดังนั้น ในช่วงที่ไม่ได้รับประทานยา เเละเกิดระดับยาในร่างกายไม่คงที่ มีโอกาสค่อนข้างเยอะ ที่จะเกิดการตกไข่กลับมาพอดี ดังนั้น การที่ มีเพศสัมพันธ์ เเล้วมีการหลั่งในร่วมด้วย ต้องระวังการตั้งครรภ์ค่อนข้างมากค่ะ   

    ดังนั้น ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น รอบเดือนคลาดเคลื่อนไปจากเดิม มีอาการคล้ายจะตั้งครรภ์ เช่น คัดตึงเต้านม ปวดท้องน้อย เลือดออกผิดปกติ ปวดเอว ปวดท้อง เเนะนำให้ตรวจปัสสาวะเพื่อดูการตั้งครรภ์ก่อนค่ะ ถ้าไม่พบการตั้งครรภ์ แล้วรอบเดือนที่ปกติก็ยังไม่มาอีก 1 สัปดาห์อาจลองตรวจปัสสาวะเพื่อดูการตั้งครรภ์ซ้ำอีกทีค่ะ การจะมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น คือการที่ รอบเดือนที่ควรจะมาตามปกติมาค่ะ ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ที่เป็นไปได้คือ การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ตอดเชื้อในโพรงมดลูก ติ้งเนื้อที่ปากมดลูก หรือในโพรงมดลูก ซึ่งเเนะนำให้ไปตรวจอย่างละเอียดกับสูติเเพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ

     

    Nufoung  Nufoung
    สมาชิก
    แต่พอหยุดกินยาล่าสุดที่มีอะไรกันกับแฟนไม่มีการหลั่งในนะคะแต่มันเป็นหลังจากมีอะไรกันกับแฟนแต่ก่อนหน้านั้นหนูกั้นเยี้วไว้นานมากเลยพอเขาห้องน้ำก็เจอมันมีเลือดสีน้ำตาลติดอยู่อ่ะคะ แต่มีอาการเวียนหน้าบ่อยคะทำไรนิดหน่อยก็เหนื่อยอาการเจ็บเต้านมพึงมีวันนี้เจ็บมาเป็นพักๆคะ อาการปวดเกร็งหน้ายังเป็นอยู่. แล้วก็ปวดหลังด้วย อาการปวดท้องมันจะปวดทางด้านขวาและตรงท้องน้อยคะ

    ถ้าหลังจากหยุดยา ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ อาจมีความเสี่ยงน้อยที่จะตั้งครรภ์ค่ะ เเต่ถ้ามีถึงแม้ไม่ได้มีการหลั่งใน แต่ถ้ามีสารคัดหลั่งอื่นๆจากฝ่ายชายก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ ที่อาจตั้งครรภ์ได้ 

    ดังนั้น ถ้าลองตรวจปัสสาวะเเล้วไม่มีการตั้งครรภ์ อาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือติ่งเนื้อได้ แต่นอจากนั้นอาการเหล่านี้ อาจเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนได้เช่นกัน ซึ่งถ้ามีประจำเดือนมา เเล้วอาการเหล่านี้หายไปหลังจากประจำเดือนมา จะเป็นการยืนยันว่าเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนค่ะ