ถามแพทย์

  • ปวดตรงโคนนิ้วโป้งซ้าย บวม แดง กินยาแก้อักเสบแล้วลดลง แต่ยังไม่ยุบ ทำอย่างไร

  •  Noom Blivious
    สมาชิก
    อยากทราบว่า ปวดตรงโคนนิ้วโป้งซ้าย มีอาการปวด บวม แดง ปูดๆ พอกินยาแก้อักเสบ แล้ว อาการปวด หาย ปูด แดง ลดลง แต่ ยังไม่ยุบ ต้องทำยังไงบ้างครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Noom Blivious,

                        อาการปวดตรงโคนนิ้วโป้งด้านซ้าย บวม แดง อาจเกิดจาก

                     1. นิ้วซ้น (finger dislocation) คือการบาดเจ็บตรงข้อต่อซึ่งเกิดจากกระดูกนิ้วเลื่อนไปจากตำแหน่งเดิม ซึ่งจะทำให้เอ็นฉีกขาดได้ และจะมีอาการบวม ปวด และเจ็บเวลาขยับ สาเหตุของนิ้วซ้นมักเกิดจากการงอนิ้วไปด้านหลังมากเกินไป หรือจากการดึงนิ้ว

                      2. กระดูกนิ้วหัก จากอุบัติเหตุ ทำให้มีอาการปวด บวม และขยับไม่ได้หรือขยับได้ลำบาก 

                         3. โรคเก๊าท์ แต่มักพบที่นิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า มากกว่าที่นิ้ว โดยข้อที่ปวดจะมีอาการบวม แดง ร้อนร่วมด้วย มักปวดมากจนขยับไม่ได้ อาการปวดจะรุนแรงในช่วง 4-12 ชั่วโมงแรก จากนั้นจะเริ่มปวดน้อยลงและอาการจะดีขึ้นเองภายในไม่กี่วันแม้ไม่ได้รับการรักษา 

                        4. ข้ออักเสบรูมาตอยด์ แต่มักจะมีอาการปวดหลายๆ ข้อ ไม่ค่อยมีบวมแดง อาการปวดมักเป็นตอนกลางคืนและเวลาตื่นนอนตอนเช้า และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น 

                       5. โรคข้อเสื่อม แต่มักมีอาการหลายๆ ข้อ โดยจะทำให้มีอาการปวดและบวม แต่ไม่ได้ทำให้แดง 

                       6. การอักเสบติดเชื้อในข้อ ซึ่งจะทำให้ข้อปวด บวม แดงมาก และอาจมีไข้ อ่อนเพลียร่วมด้วย 

                        7. การอักเสบติดเชื้อของเนื้อเยื่อ (cellulitis) ซึ่งจะทำให้มีอาการปวด บวม แดง และอาจมีไข้ได้ 

                        หากไม่ได้มีอุบัติเหตุใดๆ ไม่ได้มีการดึงนิ้ว ก็ไม่น่ามีกระดูกหรือนิ้วซ้น ดังนั้น แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวหาสาเหตุค่ะ ในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร ก็ควรลดการใช้งานของนิ้วก่อน หากเป็นอยู่ในช่วง 1-2 วันแรก ควรใช้น้ำแข็งประคบไว้ หากเป็นหลายวันแล้ว ให้ประคบอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น หากปวดมากอาจทานยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ibuprofen, naproxen, diclofenac เป็นต้น