ถามแพทย์

  • อยากถามเรื่องอาการตกขาว

  •  laelynn
    สมาชิก

    ดิฉันอายุ 26 ปีค่ะ ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนที่แล้วมีอาการตกขาวจากเชื้อราในช่องคลอด คุณหมอให้ยา Fluomizin มารักษา แล้วไม่ได้นัดตรวจอะไรต่อ ตกขาวลดลง ไม่มีอาการคัน บางครั้งรู้สึกระคายตรงนั้น อาการค่อนข้างเล็กน้อยก็เลยไม่ได้ไปหาหมอค่ะ

    ช่วงหลัง ดิฉันพบว่าตกขาวตัวเองที่เปื้อนกางเกงมันมีสีเหลืองนิด ๆ ค่ะ ลองเอานิ้วป้ายจากช่องคลอดขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสีขาวนะ แต่ถ้าลองเอาไปป้ายทิชชู่มันก็จะออกเหลืองหน่อย ๆ ตรงนี้ก็เลยกังวลค่ะว่ามันผิดปกติมั้ย ตกลงมันเป็นสีอะไรกันแน่ เป็นตกขาวไม่มีกลิ่นเหม็น มีอาการระคายอวัยวะเพศบางครั้งแค่เล็กน้อย แบบนี้น่าจะเป็นอาการเชื้อราที่ยังหายไม่สนิทหรือเปล่าคะ

    อยากถามคุณหมอว่า ถ้าดิฉันซื้อยารักษาเชื้อรามาใช้ก่อนจะเป็นอันตรายหรือไม่คะ เพราะว่าช่วงนี้เพิ่งเริ่มงานใหม่ค่ะ กลับดึกและไม่สะดวกจะลางาน

    และอีกเรื่องว่า ดิฉันใช้ยา fluomizin แล้วรู้สึกระคายเคืองค่ะ มีอาการแสบร้อนเล็กน้อยตอนใช้ หาข้อมูลดูพบว่าน่าจะเป็นผลข้างเคียง ไม่ทราบว่าแบบนี้ควรจะใช้ยาตัวเดิมมั้ยคะ

     

     

     

    สวัสดีค่ะคุณ laelynn

     

    -อาการตกขาวจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ อาการตกขาวปกติ (Physiologic vaginal discharge) ซึ่งร่างกายจะมีอาการตกขาวลักษณะนี้ได้ตามธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นสีขาว เนื้อหยาบ ไม่มีกลิ่นเหม็น และอีกประเภทคือ อาการตกขาวที่ผิดปกติ (Pathological vaginal discharge) สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด (vaginitis)ซึ่งลักษณะตกขาวจะมีกลิ่นอับ กลิ่นคาวปลา หรือกลิ่นเหม็นรุนแรงได้ ปัสสาวะแสบขัด หรือเวลาร่วมเพศจะมีอาการปวดได้ โดยการติดเชื้อทางช่องคลอดนั้นมีเชื้อก่อโรคที่เป็นสาเหตุได้หลายชนิด

     

    -อาการตกขาวของคุณ laelynn  น่าจะเป็นอาการตกขาวปกติค่ะ  แนะนำให้รักษาความสะอาดช่องคลอดและอวัยวะเพศอยู่เสมอ อาจล้างช่องคลอดด้วยอุ่นหรือน้ำสบู่อ่อนๆและซับให้แห้ง สวมใส่กางเกงในที่สะอาดและแห้ง หากอาการต่างๆไม่ดีขึ้น แนะนำไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ