ถามแพทย์

  • สอบถามเกี่ยวกับอาการปวดท้องเบื้องต้นครับ

  •  Taweeruk Tvlove Salangsing
    สมาชิก

    สวัสดีครับผมมีอาการปวดท้องคล้ายๆปวดโรคกระเพาะอาหารตลอดเวลา แต่ไม่ได้ปวดมากระดับ 2/10 แต่ปวดตลอดเวลาเลย ไปหาหมอหมอบอกอาการคล้ายกับโรคกระเพาะอาหาร แต่ผมทานอาหารตรงเวลานะครับ ทานอาหารไม่จัดด้วย ลองทานยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะ ยาธาติน้ำขาวและยาธาติน้ำแดงดูทุกยาแล้ว เป็นระยะเวลาประมาณ 5 วัน อาการก็ไม่หายไป ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงเดือน พฤษจิกายน 2560 ผมได้รับการผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดี ผมกังวลว่ามันจะมีโอกาสเกี่ยวกับที่ผมผ่าตัดไปไหม ผ่าโดยการส่งกล้องนะครับ พออาการมันเข้าสัปดาห์ที่ 2 แล้ว ผมชักเริ่มกังวล ไม่ทราบว่าผมควรต้องทำยังไงดีครับ และเนื่องจากโรงพยาบาลที่ผมรักษาเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่ใหญ่และผู้ป่วยมีจำนวนมาก การตรวจจึงใช้เวลาที่นาน และอาจจะไม่ได้รับการตรวจที่ตรงตามอาการเหมือนในกรณีที่ผมเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ผมพอจะทำยังไงในการเข้าตรวจได้บ้าง และมีโอกาสเป็นโรคอะไรไหม

    ปล.ปัจจุบันผมน้ำหนัก 82 สูง 168 ออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน อาทิตย์ละประมาณ 3 วัน ระยะทางประมาณ 20 ก.ม./วัน

     สวัสดีค่ะ คุณ Taweeruk Tvlove Salangsing,

                     อาการปวดท้อง หากเป็นบริเวณด้านบน สาเหตุอาจแบ่งออกเป็น

                     1. ปวดท้องด้านขวาบน อาจเกิดจาก

                         - ตับอักเสบ อาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ บี หรือไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น การยาบางชนิดต่อเนื่องนานหรือในปริมาณมาก ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ นอกจากจะทำให้ปวดแบบเรื้อรัง มักมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองร่วมด้วย

                          - ถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี หากได้เคยผ่าตัดไปแล้วก็ไม่ใช่สาเหตุ

                          - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านขวาบนอักเสบ แต่มักมีอาการอุจจาระที่ผิดปกติร่วมด้วย

                          - นิ่วที่ไตขวา ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหลังแต่อาการปวดอาจร้าวมาบริเวณท้องได้

                   2 . ปวดท้องด้านซ้ายบน อาจเกิดจาก

                           - กระเพาะอาหารอักเสบ มีแผลในกระเพาะอาหาร จะรู้สึกปวดบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                           - ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง อาการปวดมักร้าวไปด้านหลัง อุจจาระจะมีไขมันปนออกมามาก อุจจาระเป็นสีเทาหรือสีซีดหรืออุจจาระมีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ มักเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

                           - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านซ้ายบนอักเสบ

                           - นิ่วที่ไตซ้าย

                     นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเนื้องอกและมะเร็งของอวัยวะในช่องท้องต่างๆ เช่น เนื้องอกและมะเร็งในตับ ตับอ่อน กระเพาะอาหาร เป็นต้น รวมถึงการมีท้องผูกเป็นประจำ ก็จะทำให้มีอาการปวดท้องเรื้อรังได้เช่นกัน

                    สำหรับการที่ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีออกไปแล้วนั้น ไม่น่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ แต่อาจมีอาการปวดเสียวหรือตึงๆ บริเวณที่ผ่าตัดได้

                    ดังนั้นหากอาการปวดท้องเป็นบริเวณข้างในท้อง ไม่ใช่ผิวหนังหรือผนังหน้าท้อง ก็ไม่น่าใช่ผลจากการที่เคยผ่าตัดค่ะ หากอาการปวดข้างในท้องยังคงเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอาการปวดตอนกลางคืน หรือมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลืองแนะนำให้ไปกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมอีกค่ะ

                     ในเบื้องต้น แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย รสไม่จัด ไม่มัน ทานอาหารให้ตรงเวลาในปริมาณที่ไม่มากเกินไป อาจทานครั้งละน้อย โดยแบ่งทานเป็น 4-5 มื้อ งดทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง งดเครื่องดื่มที่ทีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เป็นต้น 

    Taweeruk Tvlove Salangsing  Taweeruk Tvlove Salangsing
    สมาชิก

    ผมเสียวๆจะเป็นตับอ่อนอักเสพเรื้อรังแล้วสิครับ เพราะช่วงเวลาที่รอผ่านิ่วถุงน้ำดี ผมมีค่าตับอ่อนอักเสพเยอะพอสมควร หมอเคยบอกวามีโอกาสเป็นหลังจากผ่าไปแล้ว เฮ้อ....

    ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ