ถามแพทย์

  • อายุุ 18 ปี ประจำเดือนมา 12-17 พ.ย.มีปริมาณมาก แล้วมีเลือดออกมาอีก ปวดท้องน้อย เป็นช็อกโกแลตซีสต์ไหม

  •  Joy Laddawan
    สมาชิก
    ตอนนี้อายุ18ปีค่ะ เป็นประจำเดือนเมื่อวันที่12/11/18 เป็นมาได้4วันเเบบเยอะมากๆค่ะจนเป็นไข้เลย เเล้วพอวันที่15/11/18ก็ลดลงกลายเป็นสีนํ้าตาล ก็หายไปในวันที่17 มันมีกลับมาเปื้อนกางเกงในอีก เลือดสีเข้ม เหมือนประจำเดือนมาใหม่ เเล้วก็หาอีกวันมาเป็นอีก คราวนี้ปวด มดลูกสลับซ้ายขวาๆ ไม่ยอมหายเเละมีเลือดออกมาอีกพอเปื้อนๆสีนํ้าตาล สงสัยว่าจะเป็น ช็อกโกเเลตซีสหรอเปล่าค่ะ

    lสวัสดีค่ะ คุณ Joy Laddawan,

                     หากมีประจำเดือนมา 12 -17 พ.ย. โดยมีปริมาณมาก และหลังจากนั้นมีเลือดออกมาจากช่องคลอดอีก ร่วมกับอาการปวดท้องน้อย ถือว่าเป็นอาการเลือดออกผิดปกติ โดยอาจเกิดจาก

                    1. ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เช่น แท้งคุกคาม ท้องนอกมดลูก เป็นต้น โดยเลือดที่ออกในวันที่ 12-17 พ.ย. อาจไม่ใช่เลือดประจำเดือนก็ได้

                   2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดท้องน้อยและมีตกขาวที่ผิดปกติ คือตกขาวมีสีเขียวเหลืองคล้ายหนอง มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ รวมถึงมีเจ็บท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ มีปัสสาวะผิดปกติ มีไข้

                   3. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                   4. ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น 

                   5. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น แต่จะไม่ได้ทำให้มีอาการปวดท้องน้อย

                    6. มีโรคบางอย่าง เช่น ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เกร็ดเลือดต่ำ เป็นต้น แต่จะไม่ได้ทำให้มีอาการปวดท้องน้อยเช่นกัน

                    สำหรับช็อกโกแลตซีสต์ คือการที่เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญผิดที่และกลายเป็นซีสต์ขึ้นมา อาการที่สำคัญคือ จะทำให้มีอาการปวดท้องน้อยประจำเดือนมาก โดยอาจปวดก่อนที่ประจำเดือนจะมา รวมถึงเมื่อประจำเดอืนหมดไปแล้วก็ยังมีอาการปวดต่อ นอกจากนี้ อาจมีอาการเจ็บท้องน้อยขณะมีเพศสัมพันธ์ มีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้

                   หากที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อน หากตรวจไม่พบ แต่ยังคงมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยดังกล่าว ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ