ถามแพทย์

  • เป็นวัณโรคปอด กินยารักษามาเกือบ 2 เดือน วันนี้มีเสมหะปนเลือดเป็นเพราะอะไรค่ะ?

  • สวัสดีคะ ฉันตรวจพบว่าเป็นวัณโรคปอด แต่กินยามาได้เกือบสองเดือนแล้ว แต่พบว่าวันนี้ตอนเช้ามีเสมหะปนเลือดออกมานิดนึง(ไม่แน่ใจว่าเป็นเลือดหรือเปล่าเพราะออกสีส้มแดง) ฉันอยากทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรหรอคะคุณหมอ แล้วฉันอยากทราบว่ากินยาวัณโรคต้องกินทุกวัน ต้องกินตรงเวลาไหมคะ เช่น วันนี้ กินตอน 2 ทุ่มตรง วันต่อไปกินตอน 4 ทุ่ม แล้วจะเป็นอะไรไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ศรีสมร,

                      หากในตอนเช้ามีเสมหะปนเลือดเล็กน้อยดังกล่าว อาจเกิดได้จาก

                      1. เลือดจากในช่องปาก เช่น อาจเกิดจากแผลร้อนใน แผลในช่องปากจากการถูกเสียดสี เลือดออกตามไรฟันที่เกิดจากการมีเหงือกอักเสบ หรือฟันผุ เป็นต้น

                      2. เลือดที่ออกจากทางเดินหายใจ เช่น หลอดลม ปอด แต่โดยทั่วไปสำหรับวัณโรคปอด หากทานยาครบ 2 เดือนแล้ว ประกอบกับอาการต่างๆ เช่น ไอ มีไข้ หอบเหนื่อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หายไปแล้ว และหากตรวจเสมหะไม่พบเชื้อแล้ว ก็น่าจะเข้าสู่ระยะเวลาไม่แพร่เชื้อแล้ว 

                      3. เลือดที่ออกจากทางเดินอาหาร และกระเพาะอาหาร แต่จะมีอาการปวดท้องมากร่วมด้วย และมีอาเจียนเป็นเลือดออกมาปริมาณ

                      4. อาจไม่เลือดแต่เป็นสีจากอาหารและเครื่องดื่มที่ทานเข้าไปแล้วค้างอยู่ในปาก 

                       แนะนำให้ลองสังเกตว่ามีแผลในปากหรือเหงือกอักเสบอยู่หรือไม่ค่ะ หากไม่มีก็ให้สังเกตเลือดที่ออกไปก่อนค่ะ หากมีเพียงเล็กน้อยและไม่พบเกิดขึ้นอีกในวันต่อๆมา ก็อาจไม่ต้องทำอะไรค่ะ แต่หากยังคงมีออกมาเรื่อยๆ หรือมีอาการไอมากกลับมาอีก หรือเลือดที่ออกมีปริมาณมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินโรคต่อไปค่ะ

                     สำหรับการทานยาที่ต่างกัน 2 ชั่วโมงนั้น จะไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาในการรักษา สิ่งสำคัญคือการทานยาให้ได้ทุกวันค่ะ และไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินโรคอย่างต่อเนื่องค่ะ