ถามแพทย์

  • หยุดฉีดยาคุมมา 2 เดือนแล้ว มีเลือดออกติดต่อกัน 8 วันแล้ว เป็นเพราะผลข้างเคียงจากยาฉีดหรือไม่

  •  sssppp
    สมาชิก
    คือหนูหยุดฉีดยาคุมมา2เดือนแล้วคะ แล้วววันที่2กับ3มีเลือดสีนำ้ตาลออกมาแล้วก็มีเลือดสีแดงมาจนถึงวันนี้คะเป็นมา8วันแล้ว อยากทราบว่าคือประจำเดือนหรืออะไรคะทำไมมานานจังมีเพศสัมพันธ์ใส่ถุงยางตลอดเชคดีแล้วทุกครั้งคะ เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมอยู่หรอคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ sssppp,

                          การมีเลือดออกมานาน 8 วันดังกล่าว อาจเป็น

                         1. เลือดประจำเดือน โดยหากเพิ่งมาเป็นครั้งแรก หลังจากที่หยุดฉีดยาคุมกำเนิด อาจทำให้มานาน หรือมีปริมาณมากกว่าปกติได้ 

                         2. การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น แท้งคุกคาม แท้งไม่ครบ ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นต้น เนื่องจากถุงยางอนามัย แม้จะใช้อย่างถูกต้อง ก็ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%

                      3. ความผิดปกติที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น 

                       4มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แตจะมีตกขาวที่ผิดปกติและอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย บางคนอาจมีไข้

                       5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

                       แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากเลือดออกไม่เกิน 10 วัน และหลังจากนั้นไม่มีเลือดออกกะปริดกะปรอยอีก ไม่มีปวดท้องน้อย ไม่มีตกขาวที่ผิดปกติ เลือดดังกล่าวก็น่าจะเป็นประจำเดือน ซึ่งในรอบต่อๆ ไป ประจำเดือนน่าจะมาเป็นปกติในที่สุด แต่หากเลือดยังคงออกนานเกิน 10 วัน หรือมีปวดท้องน้อย มีตกขาวที่ผิดปกติ หรือหลังจากนั้นประจำเดือนยังคงมานานกว่า 7 วันมนทุกๆ รอบ ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ 

    sssppp  sssppp
    สมาชิก
    หนูทานยาฮอร์โมนไทยรอยด์ร่วมด้วยเกี่ยวไหมคะเพราะเป็นมะเร็งไทยรอยด์

    หากค่าฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายผิดปกติ อาจมีผลให้มีเลือดออกผิดปกติได้ค่ะ