ถามแพทย์

  • อายุ 20 ปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หลังประจำเดือนหมดไป 1 สัปดาห์ มีเลือดไหลจากช่องคลอด อันตรายไหม

  •  Qee Wee
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ตอนนี้อายุ 20 ปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ค่ะ พอดีมีอาการเลือดไหลกระปริดกระปรอย หลังหมดประจำเดือนไปแล้ว 1 สัปดาห์ค่ะ เป็นประจำเดือนล่าสุดวันที่ 8-11 ช่วงสอบที่ผ่านมา แล้วช่วง 3 วันที่ผ่านมานี้มีเลือดสีน้ำตาลคล้ำเหมือนเลือดค้าง แล้วก็บางทีเป็นเลือดสีแดงค่ะ ไม่มีอาการปวดท้องใดๆค่ะ ไม่ทราบว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Qee Wee,

                       หากมีประจำเดือนมาในวันที่ 8-11 ต.ค. การมีเลือดออกหลังประจำเดือนหมดไปแล้ว 1 สัปดาห์ อาจเกิดจาก 

                      1. เลือดออกช่วงไข่ตก หากเลือดที่ออกอยู่ในช่วงกึ่งกลางของรอบประจำเดือน คือประมาณวันที่ 13-15 นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา และออกเพียงแค่ 1 วัน เลือดออกกังกล่าวก็น่าจะเป็นเลือดออกวันไข่ตกได้ แต่หากออกเกิน 2 วันหรือมีปริมาณมาก ก็ไม่น่าใช่

                      2. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ 

                      3. ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่มักจะพบในหญิงวัยกลางคนขึ้นไป หากอายุเพียง 20 ปี ก็ไม่น่าใช่

                     4. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น

                     5. มีโรคทางกายต่างๆ เช่น มีเกร็ดเลือดต่ำ มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

                     หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก  อาจสังเกตอาการไปก่อน หากไม่ออกมาอีก ไม่มีปวดท้องน้อย ไม่มีตกขาวที่ผิดปกติ และประจำเดือนยังคงมาเป็นปกติ ก็อาจไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากเลือดที่ออกมีปริมาณมาก หรือยังคงออกแบบกะปริดกะปรอยเรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อย มีตกขาวที่ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ