ถามแพทย์

  • กินยาคุมไป 1 สัปดาห์หลังจากหยุดกินมา 2 ปี มีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง เกิดจากอะไร

  • ไม่ได้กินยาคุมมาประมาณ2ปี พึ่งจะกลับมากินอีกครั้งแต่หลังจากกินยาได้1อาทิตย์อยู่ๆเวลามีอะไรกับแฟนก็มีเลือดออกถ้าไม่มีอะไรกันก็ปกติ(ยาคุมที่กินเป็นแบบ21เม็ดซึ่งยังไม่เคยกินมาก่อนเคยกินแต่แบบ28เม็ด)

    สวัสดีค่ะ คุณ ทรงพล เรือนเจริญ,

                         การมีเลือดออกระหว่างที่ทานยาคุมกำเนิดนั้น อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาที่ทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ ซึ่งมักจะเป็นในช่วงการทานยา 1-2 แผงแรก หากทานต่อเนื่องไปซักระยะ อาการมักจะหายไป 

                         อย่างไรก็ตาม หากเลือดออกเฉพาะขณะที่มีเพศสัมพันธ์เท่านั้น อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้ เช่น มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก มีมะเร็งปากมดลูก (แต่ก็มักมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยร่วมด้วย) 

                          หากไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวดท้องน้อย ตกขาวที่ผิดปกติ และเลือดที่ออกมีปริมาณเพียงเล็กน้อย อาจสังเกตอาการไปก่อนก็ได้ค่ะ อาการน่าจะค่อยๆ หายไป แต่หากยังคงมีเลือดออกทุกครั้ง หรือเลือดมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อย มีตกขาวผิดปกติ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ