ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ เอาอวัยวะเพศมาถูกัน แล้วใส่ถุงยาง หลั่งนอก หลังจากนั้นมีอาการต่างๆ จะท้องไหม

  •  wolterwolter
    สมาชิก

    คือมีเพศสัมพัธ์กันแต่ฝ่ายชายมีการเอาอวัยวะเพศมาถู(บริเวณหัวมีนำ้หล่อลื่น)  ก่อนที่จะใส่ถุงยาง (หลั่งนอกด้วย) แต่หลังจากนั้นฝ่ายชายได้ไปล้างมือ แล้วมาใช้นิ้วสอดใส่ให้ แต่มีเลือดออก จึงหยุด หลังจากนั้น 1 วัน รู้สึกมีอาการปวดท้องน้อย กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องผูก ปวดเมื่อยตามตัว ตัวร้อนแต่ไม่ได้เป็นไข้ อาการแบบนี้เข้าข่ายการตั้งครรภ์หรือเปล่า  หรือเพราะเครียดเกินไป  

    wolterwolter  wolterwolter
    สมาชิก

    wolterwolter
    Oct 10, 2018 at 10:57 PM

    คือมีเพศสัมพัธ์กันแต่ฝ่ายชายมีการเอาอวัยวะเพศมาถู(บริเวณหัวมีนำ้หล่อลื่น)  ก่อนที่จะใส่ถุงยาง (หลั่งนอกด้วย) แต่หลังจากนั้นฝ่ายชายได้ไปล้างมือ แล้วมาใช้นิ้วสอดใส่ให้ แต่มีเลือดออก(เล็บบาด) จึงหยุด หลังจากนั้น  รู้สึกมีอาการปวดท้องน้อย กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องผูก ปวดเมื่อยตามตัว ตัวร้อนแต่ไม่ได้เป็นไข้ อาการแบบนี้เข้าข่ายการตั้งครรภ์หรือเปล่า ผ่านมา 6 วันแล้ว หรือเพราะเครียดเกินไป  

     

     สวัสดีค่ะ คุณ wolterwolter,

                        ในรอบแรกนั้น การนำอวัยวะเพศชายมาถูบริเวณอวัยวะเพศหญิง หากไม่ได้มีการหลั่งน้ำอสุจิออกมา มีเพียงแค่น้ำหล่อลื่นออกมา โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะไม่มี

                        สำหรับครั้งที่ 2 นั้น หากมีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าสู่ช่องคลอด แต่ใส่ถุงยางอนามัย โอกาสที่จะตั้งครรภ์มีได้ประมาณ 2%-18% แต่หากได้ใช้วิธีการหลั่งนอกร่วมด้วย โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะลดลง 

                        การที่จะทราบว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ต้องรอให้ประจำเดือนขาดไปเสียก่อน แล้วจึงจะตรวจหาการตั้งครรภ์จากปัสสาวะค่ะ ส่วนอาการต่างๆของการตั้งครรภ์นั้น เช่นอาการแพ้ท้องและอื่นๆ จะปรากฏหลังอาการขาดประจำเดือนไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้น หากอาการปรากฏเพียงไม่กี่วันหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ และยังไม่มีอาการขาดประจำเดือน จึงไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์ค่ะ

                        ในเบื้องต้น เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ ควรพยายามรักษาอาการท้องผูกให้หายก่อน โดยอาจใช้ยาระบายช่วย และในช่วงนี้ ก็ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ เนื้อสัตว์ติดมัน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด  ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ทานช้าๆ ไม่เร่งรีบ ไม่ควรทานอาหารก่อนนอนภายใน 2 ชั่วโมง  ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และน้ำอัดลมอัดแก๊สต่างๆ รวมถึงห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ แก้ปวดประจำเดือน เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ

    wolterwolter  wolterwolter
    สมาชิก

    คือบอกไม่หมดตอนแรก เป็น FTM ด้วย เทคฮอร์โมนเพศชายเพื่อข้ามเพศ แต่ยังไม่ได้ตัดมดลูก เพราะฉะนั้นประจำเดือนไม่มาเกือบจะ 2 ปีแล้ว เลยคาดเดาไม่ได้เลย