ถามแพทย์

  • ปวดหัวไมเกรนเกือบสองอาทิตย์ไม่หาย กังวลว่าจะเป็นโรคอื่น

  •  Boonyaphorn Buttaprom
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากจะปรึกษาคุณหมอค่ะ 

    ปกติแล้วจะปวดหัวไมเกรนแปปๆ ใช้เวลาไม่นาน เดือนนึงเป็น 1-2 ครั้งค่ะ แต่เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (03/06/62)  มีอาการปวดหัวไมเกรนหนักมากค่ะ เลยแก้ปัญหาด้วยการกินยาพาราเซตามอล 2 เม็ด ด้านที่ปวด (ซ้าย) ก็ดีขึ้น สักพักเปลี่ยนสลับมาปวดไมเกรนด้านขวา ปวดตั้งแต่หัวลามยันตาเลยค่ะ แต่ไม่อยากกินยาเพิ่มอีก

    จนช่วงเย็นเริ่มไม่ไหวเลยซื้อยา gofen400 มากิน ส่วนอาการหลังกิน gofen ไปคือดีขึ้นค่ะ หายปวดหัว แต่ตื่นเช้ามาคือก็มีอาการปวดหัวตุบๆ อีก ด้วยความที่ไม่อยากกินยาก็เลยพยายามหาเพลงบรรเลงมาฟัง ซึ่งมันก็ช่วยระงับอาการปวดหัวได้ระยะนึง แต่ทุกวันก็จะมีอาการปวดหัวตุ๊บๆ มาเป็นระยะๆ ค่ะ 

    พอมาเมื่อวาน (10/06/62) ก็มีอาการไมเกรนกลับมาอีกรอบค่ะ รอบนี้ปวดตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยค่ะ  (ไม่ได้กินยา กินครั้งเดียวคือวันจันทร์ที่ 03/06/62)  คือมีอาการปวดตุ๊บๆที่หัวด้านซ้าย ปวดเป็นระยะๆ แล้วเวลาก้มลงเก็บของก็ปวดหัวบริเวณด้านหลังค่ะ พอช่วงเลิกงานรู้สึกว่ายังไม่หสยปวดเลยกินยา gofen400 ไปเม็ดนึง อาการปวดหัวก็หายค่ะ 

    แต่วันนี้ (11/06/62) ก็เริ่มมีอาการปวดหัวอีกรอบค่ะ ปวดเป็นระยะเหมือนเดิม อาการทรงๆนี้ มาเกือบจะสองอาทิตย์แล้ว จะหายทันทีเมื่อทานยา ซึ่งส่วนตัวไม่อยากทานยาเลยค่ะ กลัวมีผลต่อตับกับไตมาก 

    ทีนี้เลยอยากสอบถามคุณหมอว่าในอาการปวดหัวแบบนี้ เราสามารถไปทำ MRI Scan ที่ รพ.เพื่อหาสาเหตุมั้ยคะ กลัวตัวเองเป็นมากกว่าไมเกรนมากๆๆๆเลยค่ะ กลัวเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ บลาๆๆ ...ยังไงรบกวนคุณหมอช่วยตอบกลับปัญหานี้ด้วยนะคะ 

    ขอบคุณค่ะ :)

    Boonyaphorn Buttaprom  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Boonyaphorn Buttaprom

    ปวดหัวไมเกรนเป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงได้ โดยจะรู้สึกปวดตุ๊บๆ มักปวดบริเวณศีรษะข้างเดียว หรือปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดสองข้าง ในขณะที่ปวดก็มักมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย และอาจมีความรู้สึกไวต่อเสียงและแสงสว่างมากกว่าปกติ โดยการโดนแสงจ้า เสียงดัง และกลิ่นฉุนจะกระตุ้นให้ปวดมากขึ้น

    เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิง และอาจมีความสัมพันธ์กับประจำเดือน

    การรักษาหลักๆคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ร่วมกับหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเช่น ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การทำงานเป็นกะ ไม่เป็นเวลาปกติ มีความตึงที่คอหรือไหล่ ความเครียด ความกังวล การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ภาวะขาดน้ำ หรือการดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับรับประทานยาแก้ปวดในกลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยาในกลุ่ม ยาเออร์กอต (Ergots) ยากลุ่มทริปแทน (Triptans) ได้

    หากมีอาการปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ ปวดจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะปวด คลื่นไส้ อาเจียนมาก มีความผิดปกติของระบบประสาทร่วมด้วยเช่น แขนขาอ่อนแรง พูดลำบาก หน้าเบี้ยว มองเห็นภาพซ้อน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม ส่วนจะต้องส่งทำ MRI หรือไม่ แพทย์ผู้รักษาจะทำการพิจารณาอีกครั้ง ถ้ามีความผิดปกติทางระบบประสาทร่วมด้วย แพทย์อาจส่งเพิ่มเติมได้ค่ะ