ถามแพทย์

  • อายุ 17 ปี ปวดหัวข้างซ้ายข้างเดียวลามมาที่เบ้าตา ปวดทุกวัน กินยาแล้วไม่หาย เกิดจากอะไร

  • สวัสดีค่ะหนูอายุ17ปี หนูปวดหัวข้างเดียวคือด้านซ้ายลงทาถึงเบ้าตาอ่ะค่ะ หนูปวดแบบนี้ทุกวัน กินยาก็ไม่หายหนูเป็นอะไระ

     สวัสดีคะคุณ ปรัชญาภร์ ประกอบศรี

    อาการปวดศีรษะ เป็นอาการที่ไม่จำเพาะค่ะ อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกันค่ะ

    ซึ่งสาเหตุที่พบได้ ต้องแบ่งออกเป็นสาเหตุที่ไม่ได้มีอันตราย และสาเหตุที่อาจจะมีเรื่องของสาเหตุอันตรายอื่นๆ ได้ค่ะ

    เรื่องแรก มาดูในเรื่องของกล้ามเนื้ออักเสบ ทำให้มีเรื่องของการปวดได้ค่ะ

    เรื่องไมเกรนซึ่งจะมาด้วยอาการปวดศีรษะข้างเดียว อาจจต้องเห็นแสงหรือได้กลิ่นผิดปรกติร่วมด้วยก็ได้ค่ะ 

    ปัญหาในเรื่องของอาการปวดศีรษะจากการพักผ่อนน้อย หรือ การนอนไม่เพียงพอ

    ปัญหาเรื่องของการติดเชื้อ มีไข้ ก็ทำให้มีปัญหาเรื่องของการปวดศีรษะได้ค่ะ

    นอกจากนี้ภาวะเครียด ก็ทำให้เกิดอาการได้ค่ะ

    แต่ที่ต้องมาดูว่าไม่มีปัญหาที่น่ากังวลอื่น ๆ ดังนี้ค่ะ 

    1. ปัญหาเนื้องอกในสมอง
    2. ปัญหาเรื่องของการทำงานที่ผิดปรกติของตา
    3. ภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ 
    4. ปัญหาเรื่องของการหดเกร็งของเส้นเลือด
    5. ปัญหาเรื่องของการอักเสบของเส้นเลือดข้างกกหู
    6. ปัญหาเรื่องของการติดเชื้อในหูชั้นกลาง ชั้นใน
    7. ปัญหาเรื่องของรากฟันอักเสบ หรือ มีหนองในโพรงรากฟัน

    เหล่านี้เป็นปัญหาที่อาจจะทำให้มีเรื่องของอาการปวดศีรษะที่อาจจะไม่สามารถรักษาได้ด้วยเรื่องของยาแก้ปวดค่ะ ดังนั้นแนะนำในเรื่องของการพบแพทย์ก่อนนะค่ะ ถ้ารับประทานยาแก้ปวดต่อเนื่องแล้วไม่ดีขึ้น