ถามแพทย์

  • ปวดท้องน้อยมีเลือดออกมากทางช่องคลอด เป็นอะไร

  •  Sofia Vada
    สมาชิก
    คือตอนแรกมีอาการ ปวดท้อง เป็นลำไส้อักเสบ และเข้าโรงบาล ตอนเข้าโรงบาลมีประจำเดือนมาตามวัน แต่ตอนนี้ยังไม่หยุดเลย เป็นมาได้ 8 วันแล้วค่ะ ปกติจะเป็นแค่ 3-5 วัน และไม่มีอาการปวดท้องน้อย โรงพยาบาลที่รักษาอยู่อัลตราซาวด์ดูไม่มีอะไรที่ต้องน่าเป็นห่วง ต่างก็บอกว่า เชิงกลางอักเสบบ้าง ถุงน้ำในมดลูกแตก เลยทำให้เลือดไหล คือเอาประเด็นยังไม่สรุป และที่ปวดท้องหมอบอกว่าเป็นแค่ลำไส้อักเสบ ตอนนี้ได้รักษาเสร็จแล้ว แต่ประจำเดือนกับปวดท้องน้อยยังอยู่ อยากจะทราบว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ ขอสรุปอาการตอนนี้น่ะค่ะ -ปวดท้องน้อยแบบเอื่อยๆ แบบชาๆ -ประจำเดือนมามากกว่าปกติ (ปกติเปรี่ยนผ้าประมาน 1-2 ครั้งต่อวัน แต่ครั้งนี้ต้องเปรี่ยนทุกๆ 4ชั่วโมงหรือ 3ชั่วโมง) -มีริ่มเลือดเกาะติดทุกครั้ง -และเหมือนมีเมื้อคๆขาวๆตามมาติดผ้าอนามัยด้วยค่ะ -และมีเลือดเป็นสีเกือบดำบ้าง และแดงบ้าง
    Sofia Vada  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Sofia Vada

    การวินิจฉัยที่เป็นไปได้

    -นึกถึงกลุ่มโรคทางด้านนรีเวชมากที่สุด เพราะมีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติร่วมด้วย อาจเกิดจากเนื้องอกมดลูก เนื้องอกในรังไข่ชนิดที่สร้างฮอร์โมน หรือมีการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานสตรี การให้ได้การวินิจฉัยอาจทำอัลตราซาวน์หน้าท้องหรือตรวจภายในโดยสูตินรีแพทย์

    -กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย

    -โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่นลำไส้อักเสบหรือติดเชื้อ แต่จะไม่อธิบายเรื่องเลือดออกทางช่องคลอด อาการน่าจะเด่นเรื่องถ่ายเหลว ท้องตึง กินได้น้อยมากกว่าค่ะ

    แนะนำว่าถ้ายังมีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ จนมีภาวะซีด เพลีย มีไข้ ปวดหน่วงท้องน้อยไม่ทุเลา ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำทันที เพราะภาวะเลือดออกไม่หยุดอาจอันตรายจนทำให้เกิดภาวะช็อกจากการเสียเลือดได้

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น รับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ รับประทานอาหารอ่อนๆสุกสะอาด ดื่มน้ำมากๆ งดการมีเพศสัมพันธ์ สังเกตอาการดังกล่าวไป