ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ แต่กินยาคุมทุกครั้ง ประจำเดือนมาปกติ ล่าสุดมา 17 ธ.ค. วันที่ 1 ม.ค. มีเลือดออก เกิดจากอะไร

  •  สมาย'ยยย
    สมาชิก
    ประจำเดือนล่าสุดมาวันที่ 17ธันวา มีอะไรกับแฟนวันที่26 เรากินยาคุมทุกครั้งที่นอนกับแฟนแต่ปล่อยนอกทุกครั้ง ประจำเดือนก้มาปกติทุกเดือน ./แต่พอมาวันที่1เดือน1มีเลือดออกมาไม่เยอะมาแค่1วันครึ่ง /ระหว่างนั้น วันที่26ถึงวันนี้ เราก้คุมอาหารจะลดน้ำหนัก คุมมา13วัน น้ำหนักไม่ลงเลย วัดรอบพุงขยายขึ้น 1-2นิ้ว รุสึกรอยแตกที่พุงเยอะขึ้น แต่ปกติเป็นคนคุมน้ำหนักจะลงง่าย ที่เลือดออกมา 1วันครึ่ง คืออยากทราบว่าเกิดจากอะไรคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ สมาย'ยยย,

                        หากกำลังทานยาคุมกำเนิดชนิด 21 หรือ 28 เม็ดอยู่ เลือดที่ออกในระหว่างที่ยังทานยาคุมไม่หมดแผง น่าจะเป็นเลือดออกกะปริดกะปรอยที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดได้ โดยเฉพาะหากเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำ และทานยาไม่ตรงเวลาในแต่ละวัน

                         แต่หากหมายถึงยาคุมฉุกเฉิน หลังการทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์ บางรายอาจมีเลือดออกจากช่องคลอดได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจาก และหากเลือดหยุดไหลไปแล้ว ก็ไม่ได้อันตรายอะไรอะไรค่ะ

                         สำหรับการลดน้ำหนักนั้น หากมีน้ำหนักตัวมากมานาน และอายุที่มากขึ้น การลดน้ำหนักลงจะทำได้ยากกว่าในช่วงอายุน้อย ส่วนวิธีการลดน้ำหนัก ต้องควบคุมอาหารที่ทาน โดยทานให้ได้พลังงานน้อยกว่าที่ใช้ในแต่ละวัน โดยเฉลี่ยต้องทานให้ได้น้อยกว่าวันละ 1500 กิโลแคลอรี่ แต่หากอายุมาก จำนวนแคลอรี่ก็ต้องน้อยกว่านี้ และต้องทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ไม่งดทานอาหารในบางหมู่ เพียงแต่ต้องเพิ่มสัดส่วนของผักและผลไม้ ลดอาหารประเภทแป้งและไขมัน แต่ไม่ควรงดไปเลย เพราะอาจทำให้เราขาดวิตามินบางชนิดที่ต้องอาศัยไขมันในการดูดซึมได้ และที่สำคัญต้องออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการเผาผลาญด้วย 

                       หากต้องการลดน้ำหนักให้ได้ 1 กิโลกรัม จะต้องมีการเผาผลาญพลังงานทั้งหมดประมาณ 7,700 กิโลแคลอรี่ ดังนั้น การลดน้ำหนักให้ได้ 1 กิโลกรัมจึงอาจต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์ได้

                       ส่วนรอบเอวที่ขยายขนาดขึ้น อาจเกิดจากไขมันที่ไปสะสมหน้าท้องมากขึ้น เนื่องจากการขาดออกกำลังกาย หรือเกิดอาการท้องอืด มีลมในลำไส้มาก ท้องก็จะโตขึ้นได้ค่ะ